คำแนะนำ
เสี่ยงซื้อในบริเวณ $1,053(ตัดขาดทุนหากหลุด $1,045) ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทองคำ
แนวรับ 1,063 1,053 1,045
แนวต้าน 1,071 1,086 1,098
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำสปอตสหรัฐฯวานนี้อ่อนตัวลง 1.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่คอยกดดันตลาดทองคาอย่างต่อเนื่องจากประเด็นเดิมๆ ซึ่งก็คือการประชุมของเอฟโอเอมซีที่มีการคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะตัดสินในปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยภาพรวมเป็นปัจจัยที่ส่งผลเชิงลบต่อตลาดทองคา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถสร้างจุดต่าสุดใหม่ได้ มีโอกาสที่จะมีแรงซื้อเก็งกาไรเข้ามาในตลาด ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแนวโน้มอ่อนค่าโดยเคลื่อนไหวในบริเวณ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่ไม่เลวร้ายสาหรับตลาดทองคำในประเทศ จากประเด็นที่เกิดขึ้นทำให้ในระยะสั้นๆ ตลาดจะมีความผันผวนไปได้บ้างการลงทุนจึงจาเป็นต้องวางจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน
ปัจจัยเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มอ่อนตัวลงมาอีกครั้งตามแนวโน้มขาลง เบื้องต้นหากหลุด 1,063 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสเผชิญแรงขายออกมาบริเวณ 1,053 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวต้านถูกยกลงมาที่บริเวณ 1,071 และ 1,086 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
เก็งกำไรตามกรอบราคา โดยการเข้าซื้ออาจพิจารณาบริเวณ 1,063 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดจาเป็นต้องถอยจุดซื้อมาในบริเวณ 1,053 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,045 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวสารประกอบการลงทุน
(-)ดอลล์แข็งค่าขณะตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรในวันพฤหัสบดี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่าสุดในรอบ 1 เดือนที่เข้าทดสอบในวันพุธ ขณะที่ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ ยูโรร่วงลง 0.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังพุ่ง 1.1% ในวันพุธ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นบ่งชี้ว่า มีโอกาส 85% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในสัปดาห์หน้า ขณะที่โพลล์รอยเตอร์บ่งชี้ว่าโบรกเกอร์ 17 รายจากทั้งหมด 18 รายที่ติดต่อกับเฟดคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(-)ราคาน้ำมันดิบร่วงต่าสุดในรอบเกือบ 7 ปี ราคาน้ามันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลง 1% ในวันพฤหัสบดีสู่ระดับต่าสุดครั้งใหม่นับตั้งแต่ปี 2009 ขณะที่เทรดเดอร์มุ่งความสนใจไปที่ผลผลิตน้ามันส่วนเกินทั่วโลก และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นถ่วงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้ ราคาน้ามันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 40 เซนต์ สู่ระดับ 36.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ามันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอนปิดลดลง 38 เซนต์ สู่ระดับ39.73ดอลลาร์/บาร์เรล
(+)สหรัฐเผยยอดขาดดุลงบประมาณลดเกินคาดในเดือนพ.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐลดลงเกินคาดสู่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. จาก 1.36 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า สหรัฐอาจขาดดุลงบประมาณ 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.
(+)สหรัฐเผยจานวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาด กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค.เพิ่มขึ้นเกินคาด 282,000 ราย จาก 269,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอาจทรงตัวที่ 269,000 ราย ส่วนจานวนเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์อยู่ที่ 270,750 ราย เพิ่มขึ้นจาก 269,250 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
(+/-)สหรัฐเผยราคานาเข้าลดลงในเดือนพ.ย. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยราคานาเข้าลดลง 0.4% และราคาส่งออกลดลง 0.6% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.3% และ 0.2% ตามลาดับในเดือนต.ค.นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ราคานาเข้าอาจลดลง 0.7% และราคาส่งออกอาจลดลง 0.3% ในเดือนพ.ย.
ข่าวเด่น