ตลาดหุ้นโลกปิดเมื่อคืนพุ่งแรงรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาดการณ์ โดยตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 17,749.09 จุด พุ่งขึ้น 224.18 จุด หรือ +1.28% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,071.13 จุด เพิ่มขึ้น 75.77 จุด หรือ +1.52% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,073.07 จุด เพิ่มขึ้น 29.66 จุด หรือ +1.45%
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.58) บวกขึ้นเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 360.43 จุด,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,624.67 จุด เพิ่มขึ้น 10.27 จุด หรือ +0.22% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,469.26 จุด เพิ่มขึ้น 18.88 จุด หรือ +0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,061.19 จุด เพิ่มขึ้น 43.40 จุด หรือ +0.72%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแรง หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวานนี้ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006
โดยเฟดคาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวในลักษณะที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะปรับนโยบายตามภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เฟดยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.4% ในปี 2016, 2.2% ในปี 2017 และ 2.0% ในปี 2018 ส่วนอัตราเงินเฟ้อนั้น เฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นจาก 0.4% ในปี 2015 สู่ระดับ 1.6% ในปี 2016 และสู่ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด ในปี 2018
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 10.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.173 ล้านยูนิต หลังจากดิ่งลง 12% ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
สำหรับปัจจัยที่ผลักดันตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น มาจากการที่นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมจับตาผลการประชุมของเฟด ที่จะมีการประกาศผลภายหลังจากที่ตลาดปิดทำการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากการระบุของสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนดีดตัวแตะระดับ 0.2% ในเดือนพ.ย. แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปที่ 2% ขณะที่ผลสำรวจมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลงแตะ 54.0 ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 54.2 ในเดือนพ.ย.
ข่าวเด่น