ตลาดหุ้นอเมริกาปิดตลาดเมื่ิอคืนนี้ (22 ธ.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 17,417.27 จุด พุ่งขึ้น 165.65 จุด หรือ +0.96% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,001.11 จุด เพิ่มขึ้น 32.19 จุด หรือ +0.65% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.97 จุด เพิ่มขึ้น 17.82 จุด หรือ +0.88%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.1% ปิดที่ 356.87 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,567.60 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด หรือ +0.05% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,488.75 จุด ลดลง 9.02 จุด หรือ -0.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,083.10 จุด เพิ่มขึ้น 48.26 จุด หรือ +0.80%
โดยภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุ จีดีพีไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 2.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.9% และสูงกว่าระดับ 0.6% ในไตรมาสแรก
ส่วนยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของตัวเลขจีดีพีนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.0% ในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อต่ำก็เป็นปัจจัยหนุนการใช้จ่ายเช่นกัน ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะสามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4 ขณะที่เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 2.1% ในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 36 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร
ทั้งนี้นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วนบุคคลเดือนพ.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปขาดปัจจัยใหม่ๆที่จะเข้ามากระตุ้น ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายลงก่อนถึงวันหยุดเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
ข่าวเด่น