+ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อยในวันสุดท้ายของการซื้อ-ขายของปี หลังมีแรงซื้อปิดสัญญา แม้การซื้อ-ขายในตลาดโดยรวมจะเบาบาง อย่างไรก็ตาม การซื้อ-ขายในช่วงเปิดปี 2559 คาดว่าจะคึกคักขึ้นเล็กน้อยหลังนักลงทุนกลับมาจากเทศกาลหยุดยาวช่วงปีใหม่
  

+ หลุมขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงปรับลดลงต่อเนื่องแม้จะเล็กน้อยก็ตาม โดยล่าสุดสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าปรับลดลงอีก 2 หลุม มาอยู่ที่ระดับ 536 หลุม หรือเพียง 1 ใน 3 ของหลุมทั้งหมดที่ดำเนินการขุดเจาะอยู่ในปีก่อนหน้า โดยจำนวนหลุมที่ลดลงนี้ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับลดลงจากระดับ 9.5 มาอยู่ที่ระดับ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงปลายปี
  

- สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในสหรัฐฯ ที่กระทบต่อระบบท่อส่งน้ำมันและการผลิตน้ำมันของโรงกลั่นต่างๆ ในแถบรัฐอิลลินอยส์จนถึงรัฐหลุยส์เซียน่า ทำให้อุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ล้นตลาดต่อเนื่องและสต๊อกโดยรวมยังคงมีระดับสูงขึ้น โดยเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นต่างๆ ราว 13% ของกำลังการกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปทั้งหมดของสหรัฐฯ
  

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ซึ่งรายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงราว 2.5 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้สต๊อกน้ำมันดิบโดยรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 487 ล้านบาร์เรล สูงการว่าช่วงปลายปี 2557 มากถึง 26%
  

- นักวิเคราะห์ต่างๆ ยังคงมองว่าภาพรวมของตลาดน้ำมันในปี 2559 นี้ จะยังคงถูกดดันจากภาวะอุปทานจากทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง ทั้งจากกลุ่มโอเปกที่ยังไม่มีการปรับลดโควต้าการผลิต และอิหร่านเองที่ได้รับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทำให้มีแผนกลับมาส่งออกน้ำมันเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกเอง ได้แก่ สหรัฐฯ ที่มีการยกเลิกการห้ามส่งออกน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ประกอบกับรัสเซียเองที่ยังคงกำลังการผลิตระดับสูงเพื่อชดเชยรายได้จากการขายน้ำมันหลังราคาน้ำมันตกต่ำ เป็นต้น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคาได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ยังคงร้อนแรง ขณะที่สถาบันพลังงานหลายแห่งคาดการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในเอเชียปี 59 จะอยู่ที่ราว 4-5% นอกจากนี้สต๊อกน้ำมันเบนซินที่สิงคโปร์ล่าสุดปรับลดลงเล็กน้อยส่งผลให้ภาพรวมสต๊อกเฉลี่ยทั้งปี 58 อยู่ที่ระดับ 12.3 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นราว 6.8% จากปี 57
  

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคายังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปทานน้ำมันดีเซลล้นตลาดทั่วโลก ขณะที่สต๊อกน้ำมันดีเซลที่สิงคโปร์แม้จะปรับลดลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 11.4 ล้านบาร์เรล แต่ถือว่ายังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ราว 9.0 ล้านบาร์เรล

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
  

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 34-39 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 36-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
  

ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแรงจูงใจในการส่งออกน้ำมันดิบมายังตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งรายงานล่าสุดพบว่าหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ เตรียมที่จะส่งออกน้ำมันดิบลำแรกในเดือนมกราคมนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ
  

การซื้อ-ขายในตลาดน้ำมันคาดว่าจะกลับมาคุกคักอีกครั้งหลังสิ้นสุดเทศกาลหยุดยาวในช่วงปีใหม่ โดยหลายฝ่ายคาดว่านักลงทุนจะทยอยกลับเข้ามาทำการซื้อ-ขายอีกครั้ง ไม่เพียงแต่ในตลาดน้ำมันแต่ยังรวมถึงตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ด้วย

หลังจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ยืนยันว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับชาติมหาอำนาจ (P5+1) ในการยุติโครงการนิวเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ตลาดคาดว่าอิหร่านจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3-7 แสนบาร์เรลต่อวันในเร็วนี้ รวมทั้งจะมีการนำน้ำมันดิบและคอนเดนเสตที่เก็บไว้ในเรือขนส่งน้ำมันดิบกว่า 40 ล้านบาร์เรลออกมาจำหน่ายในตลาดโลก