ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โกลเบล็กซ์ แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นวันนี้ : ซื้อเก็งกำไรกลุ่มที่ปัจจัยบวกสนับสนุน โฟกัสกลุ่มขนส่ง -โรงแรม


Market View  :   ปัจจัยลบรุมเร้า
Stock of the town  :    J  ASIMAR
หุ้นแนะนำพิเศษ :   BEM
หุ้นเด่นรายวัน  :  LDC COM7 TH

  SET วานนี้ปรับตัวลงแรงตาม sentiment เชิงลบตลาดหุ้นจีนที่ทรุดตัวลงแรงจาก Circuit Breaker จากตัวเลขเศรษฐกิจที่หดตัวและครบกำหนด 6 เดือนมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออก ส่งผลให้ SET จะปิดที่ 1,263.41 จุด (-24.61 จุด) Volume 3 หมื่นลบ. โดย  Foreign Net  -1,201  ลบ. , Net TFEX  +13,758 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

  - ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวลงแรงจากความกังวลตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
  - USA PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. อยู่ที่ระดับ 51.2 ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 3 ปี , การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลง 0.4% ในเดือนพ.ย.2558 ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่ลดลงทั้งในภาครัฐ และเอกชน
  - ธนาคารกลางจีนปรับลดค่าเงินหยวนลง 0.15% สู่ระดับ 6.5032 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง
  - CHINA PMI ภาคอุตสาหกรรมการผลิตเดือนธ.ค.ร่วงมาอยู่ที่ 48.2 ซึ่งต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่สิบติดต่อกันแสดงให้เห็นว่าภาคอุตฯโรงงานในจีนหดตัว
  - ความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังจากซาอุฯ+บาเรน ตัดสัมพันธ์การทูตกับอิหร่าน และล่าสุด UAE ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน
  - Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell ราว 1.2 พันลบ.
  - FED มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 59  (คาดขึ้นอีก 3 ครั้งเป็น 1%)
  - Preview งบปี 2558 ของกลุ่มธนาคารคาดมีกำไรสุทธิลดลง YoY
  -  การขาย LTF สำหรับผู้ที่ถือหน่วยครบ 5 ปี คาดมีเม็ดเงินราว 3 – 4 หมื่นลบ.  (ทั้งนี้ปี 2012 SET แกว่งตัว 1,050 – 1,400 จุด)
  ปัจจัยลบจากความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวรวมถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงเป็นตัวถ่วงภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดังนั้นคาดว่า SET จะปรับตัวลงไปบริเวณ Low เดิม 1,250 – 1,255 จุด ซึ่งเป็นจุดเข้าซื้อเล่นรีบาวด์ตามสัญญาณเทคนิค

กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำ ซื้อเก็งกำไรกลุ่มที่ปัจจัยบวกสนับสนุน ได้แก่
  - กลุ่มขนส่งและโรงแรม จาก High Season การท่องเที่ยว AOT  BA  AAV  CENTEL  MINT  ERW
  - กลุ่มที่คาดว่างบปี 58 และ Q4/58 เติบโตขึ้น   DCC  QTC  FSMART  KCE  EA  GL  BEAUTY

หุ้นแนะนำพิเศษ

  BEM จะเริ่มซื้อขายวันนี้ (บริษัทที่ควบรวมระหว่าง BECL และ BMCL)
ดำเนินธุรกิจ 1) ทางด่วน 2 เส้นทางคือ ทางด่วนขั้นที่ 2 และทางด่วนบางประอิน-ปากเกร็ด ระยะทาง 70.5 กิโลเมตร 2) รถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง-บางซื่อระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยมีโอกาสเติบโตในอนาคตจากโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1)ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกระยะทาง 16.7 กิโลเมตร 2) รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะทาง 23 กิโลเมตร
  มีศักยภาพเติบโตในอนาคตเมื่อผนวกความแข็งแกร่งระหว่าง BECL (แข็งแกร่งด้านเงินทุนและการบริหารทางด่วน) และ BMCL (มีความเชี่ยวชาญในการเดินรถไฟฟ้า) ทำให้พร้อมที่จะร่วมประมูลโครงการภาครัฐทั้งแบบปกติและแบบ PPP ทั้งการก่อสร้างและบริหารมอเตอร์เวย์ และการก่อสร้างและบริหารรถไฟทางคู่
  ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BEM เรียงตามลำดับคือ ช.การช่าง 27.59% รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 8.22% ธนาคารกรุงไทย 6.85% ไฮกรีตโปรดักส์ 4.3% และธนาคารกรุงเทพ 2.83% ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงเป็น ช.การช่าง ทำให้นโยบายในการบริหารไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาเหมาะสมตาม consensus 5.70-6.50 บาท

หุ้นเด่นรายวัน
  LDC (ราคาปิด 2.94 ซื้อเก็งกำไร) ถึงเวลาเทิร์นอะราวด์ ชี้ปี 2560 พลิกกำไรแรง เร่งผุดสาขา หวังโกยรายได้เข้าพอร์ตแตะ 1 พันล้านบาท ผู้บริหารตั้งเป้าปี 2559 มีสาขาเพิ่มเป็น 32 สาขาจากปัจจุบันมีสาขาแล้ว 24 สาขา มั่นใจสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ (ที่มา:ทันหุ้น)
  COM7 (ราคาปิด 5.40 ซื้อเก็งกำไร) รับนโยบายช็อปช่วยชาติ-ไฮซีซัน หนุนผลงาน Q4/2558 กระหึ่ม ด้านโบรกเกอร์ ดีดลูกคิดปี 2559 กำไรพุ่งทะลุ 27% จากปีก่อน หลังรุกขยายฐานออนไลน์ แถมได้แรงหนุนตลาดสมาร์ทโฟนคึกคัก (ที่มา:ทันหุ้น)
  TH (ราคาปิด 0.79 ซื้อเก็งกำไร)  ปี 58  “ดีดี โลว์คอสต์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต” เปิดทำการแล้ว 5 สาขา ได้แก่ สาขาเพิ่มสิน -เขตสายไหม สาขาพันท้ายนรสิงห์-สมุทรสาคร สาขาท่าอิฐ-นนทบุรี สาขามาร์เก็ตทูเดย์-ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 และสาขาตลาดนานาเจริญ-ลำลูกกาคลอง 2 จากแผนเบื้องต้นที่จะเปิดทั้งหมด 14 แห่งภายในปลายปี 58 ขณะที่ในช่วง 9M58 รายงานขาดทุนสุทธิ 33 ล้านบาทจากที่มีกำไร 24 ล้านบาทใน 9M57

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์  :  -276.09  จุด

  ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,148.94 จุด ร่วงลง 276.09 จุด หรือ -1.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,903.09 จุด ดิ่งลง 104.32 จุด หรือ -2.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.66 จุด ลดลง 31.28 จุด หรือ -1.53%หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลงในเดือนธ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และพากันหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้น

ตลาดน้ำมัน NYMEX   :  -0.28  ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ขยับลง 28 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป ส่วนสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านนั้น ได้หนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงแรก ก่อนที่จะอ่อนแรงลงมาปิดตลาดในแดนลบ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ม.ค. 2559 เวลา : 12:10:09

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:05 pm