ตลาดหุ้นโลกปิดเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.59) ดัชนีร่วงกราวรูดทั้่งตลาดหุ้นอเมริกาและยุโรป โดยดาวโจนส์ดัชนีร่วงหนัก ปิดที่ 17,148.94 จุด ลบ 276.09 จุด หรือ -1.58% ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,903.09 จุด ดิ่งลง 104.32 จุด หรือ -2.08% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.66 จุด ลดลง 31.28 จุด หรือ -1.53%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.5% ปิดที่ 356.66 จุด,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,522.45 จุด ลดลง 114.61 จุด หรือ -2.47%,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,283.44 จุด ร่วงลง 459.57 จุด หรือ -4.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,093.43 จุด ลดลง 148.89 จุด หรือ -2.39%
โดยแรงกดดันเกิดจากความกังวลในสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสองมหาอำนาจในตะวันออกกลาง หลังจากที่ทางการซาอุดิอาระเบียสั่งประหารชีวิตนักโทษคดีก่อการร้าย 47 ราย รวมถึง นิมร์ อัลนิมร์ นักการศาสนาชื่อดังชาวชีอะห์ ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2554
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดผลกระทบในด้านลบมากมาย รวมถึงการที่กลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านได้ก่อเหตุโจมตีสถานทูตและสถานกงสุลของซาอุดิอาระเบียในกรุงเตหะราน จนเป็นเหตุให้ซาอุดิอาระเบียประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ด้านรัฐบาลซูดานได้ประกาศขับนักการทูตอิหร่านออกจากประเทศในวันนี้ เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ซาอุดิอาระเบีย และบาห์เรนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต
นอกจากนี้น ยังได้รับปัจจัยลบจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนธ.ค.ลดลงสู่ระดับ 48.2 จาก 48.6 ในเดือนพ.ย. โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลง ซึ่งข้อมูลภาคการผลิตที่ย่ำแย่ของจีนยังได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ อีกทั้งยังทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของจีนตัดสินใจใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ หลังจากที่ตลาดร่วงลงรุนแรงถึง 7%
รวมถึงตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ รวมถึงรายงานของมาร์กิตซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 51.2 ในเดือนธ.ค. ลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 51.3 และต่ำลงจากจากระดับ 52.8 ในเดือนพ.ย.ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลง 0.4% ในเดือนพ.ย. 2558 ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2557
สำหรับในตลาดหุ้นยุโรป ได้รับผลจากปัจจัยลบทั้งเรื่องสถานการณ์ตะวันออกกลาง และเศรษฐกิจจีนทรุดตัวลง
ข่าวเด่น