สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -10.07 จุด ต่างชาติ+กองทุนรุมขายหุ้นขนาดใหญ่ต่อ
SET แกว่งอิงแดนลบเป็นส่วนใหญ่ในกรอบ 1251-70 โดยปรับลงต่อเนื่องสองวันทำการติดต่อกันของปีนี้ จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มสื่อสาร ทั้งจากกองทุนในปท. (เชื่อว่ามาจาก LTF ครบกำหนด 5 ปี) และต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง 3.64 พันลบ. แต่ Long S50 Futures 8,085 สัญญา เป็นวันที่สอง
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ดาวน์ ขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่, รอรายงานประชุม FED
หุ้นโลกเมื่อคืน (5 ม.ค.) ปิดบวกลบกระจัดกระจายและซื้อขายผันผวน โดยหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบ ท่ามกลางแรงกดดันราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และการร่วงลงของหุ้น Apple โดยรวมนลท.ยังกังวลศก.โลกชะลอตัว หลังตัวเลข ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ และ PMI จีนอ่อนแอ รวมทั้งนลท.รอดูมาตรการใหม่ของทางการจีน หลังมาตรการสั่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ถือหุ้น > 5%) ห้ามขายหุ้นออกมา ซึ่งมาตรการนี้จะสิ้นสุดลงใน 8 ม.ค. นี้ มอง SET แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ รอรายงานผลประชุม FED ครั้งก่อน (15-16 ธ.ค.) โดยอาจอ่อนลงไปทดสอบ แนวรับ 1245-50 แต่เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหวังการรีบาวด์ แนวต้าน 1260+/-
กลยุทธ์การลงทุน : เน้นความปลอดภัย; ชอบหุ้นที่ราคาลงมามากแล้ว-มีปันผลดี
เรามองภาพรวมหุ้นไทยทั้งปี 2016 มีแนวโน้มดีขึ้นจากปีที่แล้วที่ -14% โดยน่าจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะศก.ไทยที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นจาก 2.7% ในปี 15F เป็น 3.5% ในปี 16F และกระแสเงินทุนตปท.ที่มีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้าอย่างมีนัยสำคัญหากร่างรธน.ผ่านความเห็นชอบจากการลงประชามติในช่วงกลางปีนี้ อย่างไรก็ดี ในช่วง Q1 คาดหุ้นไทยยังผันผวนสูง จาก (1) ผลกระทบจากหุ้นสหรัฐฯ ที่มักร่วงในระยะสั้น (3-4 เดือน) หลัง FED เริ่มต้นวงจรการขึ้นดบ. (2) ประมาณการกำไรปี 15-16F ของตลาดเสี่ยงถูกปรับลงอีก หลังยังทำไว้สูงเกินไป เพราะกำไร 9M15 คิดเป็นเพียง 62% ของประมาณการทั้งปี และ (3) แรงขาย LTF ครบกำหนด 5 ปีในช่วง Q1 ของทุกปี สำหรับ ม.ค. ปีนี้ เราให้น้ำหนักน้อยที่จะเกิดผลกระทบ “January Effect” โดยจะขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมันและกระแสเงินทุนตปท.ไหลเข้า ซึ่งเรามองนลท.ไม่จำเป็นต้องดักทางไว้ล่วงหน้า รอความชัดเจนก่อนก็ยังไม่สาย ดังนั้นเราแนะนำนลท.เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก โดยหุ้นที่ราคาปรับลงมามากแล้วก่อนหน้านี้และมีปันผลดี น่าสนใจต่อการลงทุนมาก เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเข้าสู่ฤดูกาลจ่ายปันผลประจำปี
ประเด็นหุ้นที่น่าสนใจ Trading Picks IRPC (ส่วนต่างราคาดีขึ้นจากน้ำมันลง) / เราหั่นเป้าหุ้น KBANK จาก 170 บ. เป็น 167 บ. จากการปรับประมาณการกำไรปี 15-16F ลง 17% และ 1% ตามลำดับ จากค่าใช้จ่าย IT และปรับต้นทุนตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น / หุ้นปันผลดี ADVANC, AP, ASP, BJCHI, BTSGIF, DTAC, INTUCH, KGI, MAJOR, QH, SIRI, TCAP, TVO
หุ้นเด่นม.ค.(Smart Tactics) AP, BJCHI, BTSGIF, CK, KAMART, INTUCH, SIRI, TIPCO
ปัจจัยติดตาม
6 ม.ค.
-ตัวเลข PMI ภาคบริการและรวมทุกภาคของญี่ปุ่น, จีน, สหภาพยุโรปใน ธ.ค.
-การจ้างงานภาคเอกชนทั่วปท.สหรัฐฯ (ADP Employment Change) ใน ธ.ค.
-คำสั่งซื้อภาคโรงงาน, คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, ดุลการค้าของสหรัฐฯ ใน พ.ย.
-ISM ภาคบริการสหรัฐฯ ใน ธ.ค., รายงานประชุมFED ครั้งก่อน (15-16 ธ.ค.)
7 ม.ค.
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยใน ธ.ค., ปริมาณทุนสำรองเงินตราตปท.ของจีนใน ธ.ค.
-ยอดค้าปลีก, อัตราว่างงานสหภาพยุโรปใน พ.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน ธ.ค.
-ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค.
ข่าวเด่น