ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
พิษเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ถล่มตลาดหุ้นโลกดิ่งจมดิน "ดาวโจนส์" ร่วงหนัก 392.41 จุด ตลาดหุ้นยุโรปติดลบระนาว


ตลาดหุ้นโลกยังคงได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงแรงติดต่อกัน ลบ 392.41 จุด ปิดที่ 16,514.10 จุด หรือลดลง 2.32% ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,689.43 จุด ลบ 146.34 จุด หรือลดลง 3.03% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,943.09 จุด ลบ 47.17 จุด หรือลดลง 2.37%

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรงเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 346.51,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,979.85 จุด ร่วงลง 234.17 จุด หรือ -2.29% ,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,403.58 จุด ลดลง 76.89 จุด หรือ -1.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 5,954.08 จุด ร่วงลง 119.30 จุด หรือ -1.96%

สาเหตุที่ตลาดหุ้นสำคัญของโลกยังร่วงลง เกิดจากปัจจัยความตื่นตระหนกจากการวิตกกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ประกาศระงับการซื้อขายเมื่อวานนี้ ตามกลไกเซอร์กิตเบรกเกอร์ หลังดัชนีหุ้นร่วงลงไปกว่า 7% ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ที่จีนประกาศใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด สำหรับเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนักมาจากการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางเงินหยวนลงสู่ระดับระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้
   

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวานนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ ซึ่งการประกาศระงับใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์มีขึ้น หลังจากที่เพิ่งมีการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ในตลาดหุ้นจีนได้เพียง 4 วัน
  

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป โดยเฉพาะข้อมูลล่าสุดที่ระบุ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. พุ่งขึ้น 17,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.219 ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง

 



บันทึกโดย : วันที่ : 08 ม.ค. 2559 เวลา : 11:42:00

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:12 am