สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -35.21 จุด น้ำมันดิ่งแรง, หุ้นจีนหยุดพักการซื้อขาย
SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1224-44 และปิดต่ำสุดของวัน ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมัน Brent ร่วงต่ำสุดรอบ 11 ปี และตลาดหุ้นจีนร่วง 7% หยุดพักการซื้อขาย (Circuit Break) เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ต่างชาติขายสุทธิต่อ 1.5 พันลบ. แต่ยัง Long S50 Futures 10,242 สัญญา เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ผันผวน แต่หากหุ้นจีนไม่ลงเกิน 10% มีโอกาสดีดกลับสูง
หุ้นโลก (7 ม.ค.) ร่วงหนักกันถ้วนหน้า จากกระแสข่าวจีนที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และราคาน้ำมันที่ลดลง โดยจีนผ่อนคลายมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ถือ>5%) ขายหุ้น 6 เดือนสิ้นสุดวันนี้ เป็นสามารถขายหุ้นได้ไม่เกิน 1% ในระยะเวลา 3 เดือน แต่ต้องแจ้งความจำนงล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน นอกจากนี้จีนยังประกาศระงับการใช้มาตรการหยุดพักการซื้อขาย (Circuit Break) มีผลตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 ม.ค.นี้ เพื่อปล่อยให้ราคาหุ้นจีนเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างอิสระมากขึ้น เพราะฉะนั้น เชื่อว่าหุ้นจีนจะร่วงลงต่อจากแรงขายที่ถูกอั้นมาก่อนหน้านี้ ประกอบกับนลท.ในตลาดคาดการณ์มากขึ้นว่าจีนจะมีการลดค่าเงินหยวนลงอย่างมีนัยสำคัญอีก กดดันกระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง มอง SET ผันผวน ต้องติดตามทิศทางตลาดหุ้นจีนประกอบ แต่หากไม่ลงลึกเกิน 10% มองมีโอกาสดีดกลับสูง แนวรับ 1220+/-, 1200-10 แนวต้าน 1240-45 อนึ่ง คาด LDC, NCL ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง อาจเลือกเก็งกำไรบริเวณแนวรับ
หากตลาดหุ้นจีนไม่ได้ลงลึกกว่า 10% มอง SET บริเวณ 1200-10 น่าเสี่ยงเก็งกำไรเพื่อการดีดกลับทางเทคนิคระยะสั้นสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง แต่หากผิดคาด SET ไหลลงจนปิดต่ำกว่า 1200 จะเป็นจุด Stop Loss สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น อย่างไรก็ดี ภาพรวม SET Q1 ยังมีแนวโน้มผันผวนในขาลงอยู่ ดังนั้นนลท.ที่รับความเสี่ยงได้ไม่สูง อาจรอความชัดเจนของทิศทางตลาดหุ้นมากกว่านี้ก่อน
ประเด็นหุ้นที่น่าสนใจ Trading Picks THCOM (ตลาดกังวลดาวเทียมใหม่ของลาวมากเกินไป-มองมีผลกระทบน้อยมาก, ตลาดคาดกำไรปี 16F โต 17%, PER ปี 16F 11.1x, Div. Yield 3%) / หุ้นพื้นฐานลงหนัก เหมาะแก่การเก็งกำไรเพื่อหวังดีดกลับระยะสั้น PTT, PTTEP, ADVANC, DTAC, INTUCH, THCOM / เราหั่นเป้าหุ้น KTB จาก 18.5 บ. เป็น 18 บ. จากการปรับประมาณการกำไรปี 15-16F ลง 6% และ 1% ตามลำดับ จากการเพิ่มสมมติฐานต้นทุนการตั้งสำรองฯ ขึ้น หลังธนาคารเปลี่ยนแปลงนโยบายจัดชั้น NPL ที่ปรับโครงสร้างหนี้ เป็น PL ที่เข้มงวดขึ้น / เราหั่นเป้าหุ้น BBL จาก 175 บ. เป็น 161 บ. จากการปรับประมาณการกำไรปี 15-17F ลง 1-5% จากการเพิ่มสมมติฐานต้นทุนการตั้งสำรองฯ ขึ้น / เราหั่นเป้าหุ้น KBANK จาก 170 บ. เป็น 167 บ. จากการปรับประมาณการกำไรปี 15-16F ลง 17% และ 1% ตามลำดับ จากค่าใช้จ่าย IT และปรับต้นทุนตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น / หุ้นปันผลดี ADVANC, AP, ASP, BJCHI, BTSGIF, DTAC, INTUCH, KGI, MAJOR, QH, SIRI, TCAP, TVO
หุ้นเด่นม.ค.(Smart Tactics) AP, BJCHI, BTSGIF, CK, KAMART, INTUCH, SIRI, TIPCO
ปัจจัยติดตาม
8 ม.ค.
-ดัชนีชี้นำศก.ญี่ปุ่นใน พ.ย. (เบื้องต้น), การลงทุนโดยตรงจากตปท.ของจีนใน ธ.ค.
-การจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐฯ ใน ธ.ค., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งสหรัฐฯ ใน พ.ย.
9 ม.ค.
-ดัชนีราคาผู้บริโภค-ผู้ผลิตจีนใน ธ.ค.,
10 ม.ค.
-ปริมาณเงินในระบบ (M0 & M1 & M2) และการปล่อยสินเชื่อเงินหยวนของจีนใน ธ.ค.
ข่าวเด่น