ตลาดหุ้นวานนี้: ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดหลุดแนว 1,240 จุดลงมาด้วยแรงขาย PTT / PTTEP / SCC ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อีกทั้งตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงแตะระดับ 7% จนต้องหยุดการซื้อขายไปทั้งวัน ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปเป็นลบมากยิ่งขึ้น กดดันให้ SET INDEX ปิดลบทั้งสิ้น 35.21 จุด มาอยู่ที่ 1,224.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,953 ล้านบาท แม้ว่าต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 1,500 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 มากถึง 10,242 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เล็กน้อย 49 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญวันนี้ ติดตามตลาดหุ้นจีน หลังทางการจีนทยอยประกาศมาตรการเพิ่มเติม เพื่อลดความกังวลจากแรงขายของผู้ถือหุ้นใหญ่ และค่าเงินหยวน ทางการจีนยกเลิกมาตรการ Circuit Breaker สำหรับตลาดหุ้นจีน หลังพบว่ามาตรการดังกล่าวยิ่งกลายเป็นตัวเร่งการขายของนักลงทุน ติดตามตัวเลขการจ้างงานเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ คืนนี้ ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ติดตามการประชุม BoE ซึ่ง Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ติดตามรายงาน Beige Book วันที่ 13 ม.ค. ติดตามตัวเลขการส่งออก – นำเข้าของจีน มุมมองต่อตลาด เราประเมินว่า SET INDEX จะทรงตัวดีขึ้น หลังจากวานนี้ “Panic Sell” ในกลุ่มน้ำมัน นำโดย PTT / PTTEP ส่งผลให้หุ้นหลักอื่นๆ ปรับฐานลงตามมา SET INDEX วันนี้จะกลับมาแกว่งในกรอบแคบมากขึ้น 1,215-1,230 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงหนาแน่น 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท สำหรับหุ้นกลุ่มน้ำมัน อย่าง PTTEP / PTT เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงออกไปก่อน เพราะหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรงตัวในระดับต่ำเช่นนี้ มีโอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง ตามมาราคาเหมาะสม แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลง 56.47% สำหรับ PTTEP ส่วน PTT ลดลง 35.49% นับตั้งแต่ต้นปี 2558 ก็ตาม อีกทั้งการปรับพอร์ตของสถาบันทั้งในและต่างประเทศกับหุ้นกลุ่มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีก 2-3 วัน ภาพรวมของกลุ่มพลังงานทั้งหมด เราประเมินว่ากลุ่มโรงกลั่นจะมีความเด่นและแข็งแกร่งสุดเมื่อเทียบกับกลุ่ม เพราะเมื่อราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง จะทำให้ค่าการกลั่นกว้างมากขึ้น เป็นบวกต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มโรงกลั่น และการปรับพอร์ตของสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เราเชื่อว่ากลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร / รับเหมา / วัสดุก่อสร้าง / อสังหาฯ / หุ้นปันผล จะกลายเป็นเป้าหมายของการปรับเงินเข้าลงทุน หรือเกิด Sector Rotation อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจไทยใน 4Q58 ส่งสัญญาณฟื้นตัวเด่น ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ตาม การติดตามปฎิกิริยาของตลาดหุ้นจีนในเช้าวันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ หลังกลต.จีนประกาศมาตรการสำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือเกิน 5% จะขายหุ้นได้ไม่เกิน 1% ภายใน 3 เดือนและต้องแจ้งต่อทางการล่วงหน้า 15 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.เป็นต้นไป ด้านธนาคารกลางจีนกำลังหาแนวทางในการบริหาร/ จัดการค่าเงินหยวน หากทำให้ค่าเงินหยวนทรงตัวหรือมีเสถียรภาพมากขึ้น จะทำให้จิตวิทยาการลงทุนโดยรวมปรับตัวดีขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก กลยุทธ์การลงทุน ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนหาจังหวะเข้าเก็งกำไรในหุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q58 เติบโตเด่นลักษณะ yoy และ/หรือ qoq” เป็นหลักเกณฑ์ในการจัดสรร Accumulative Buy: KBANK Trading: AAV
ข่าวเด่น