- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังวานนี้ลงไปแตะระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก และได้ทำการหยุดการซื้อขายตลอดทั้งวัน หลังจากปรับตัวลงไปร้อยละ 7 ในรอบวัน (Circuit Breaking) ทั้งนี้ตลาดหุ้นของจีนได้หยุดทำการซื้อขายเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นผลมาจากที่ทางการของจีนได้ปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ร้อยละ 0.5 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงหนักที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นการอ่อนค่าลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง -/+ นักวิเคราะห์ได้มองว่า มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับ 30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตราบใดที่ผู้ผลิตน้ำมันยังคงระดับการผลิตเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยบวกจาก การซื้อกลับ (Short Covering) และการไล่ซื้อจากความตื่นตะหนก (Panic Buy) ของนักลงทุนที่จะพยุงให้ราคาน้ำมันดิบอยู่เหนือระดับ 32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลต่อไป + นักลงทุนในตลาดยังคงกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ล่าสุด กองทัพของซาอุดิอาระเบีย ได้ทำการโจมตีทางอากาศในเมืองซานา (Sanaa) เมืองหลวงของเยเมน โดยเป็นการโจมตีที่รุนแรงสุดในรอบ 9 เดือนของสงครามครั้งนี้ ทั้งนี้ซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรมุสลิมนิกายสุหนี่ ได้พยายามที่จะเข้าครอบครองเมืองหลวงของเยเมนหลังจากในปัจจุบันอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลมุสลิมนิกายชีอะห์ -/+ ตัวเลขผู้ขอรับสิทธิ์ว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ปรับตัวลดลง 10,000 คนจากสัปดาห์ก่อนหน้าลงมาอยู่ที่ระดับ 277,000 คน โดยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 300,000 คนเป็นเวลาติดต่อกัน 44 สัปดาห์ ทั้งนี้การปรับตัวลดลงของผู้ขอรับสิทธิ์ว่างงานครั้งแรกเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบและตามราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ หลังจากระดับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสำรองของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.58 ล้านบาร์เรล ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 232 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่มากเกินพอ โดยเฉพาะโรงกลั่นในประเทศจีนยังมีการส่งออกน้ำมันเบนซินที่มากขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นในประเทศมีแผนปิดซ่อมบำรุงค่อนข้างน้อยในปีนี้ ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจาก ตลาดยังคงถูกกดดันจากโรงกลั่นในภูมิภาคได้เร่งผลิตน้ำมันเบนซิน เนื่องจากได้ราคาที่ดี ทำให้มีปริมาณน้ำมันดีเซลออกมาสู่ตลาดค่อนข้างมาก ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 32-38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 32-38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแรงจูงใจในการส่งออกน้ำมันดิบมายังตลาดโลกมากขึ้น การซื้อ-ขายในตลาดน้ำมันคาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังสิ้นสุดเทศกาลหยุดยาวในช่วงปีใหม่ หลังจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ยืนยันว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับชาติมหาอำนาจ (P5+1) ในการยุติโครงการนิวเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ตลาดคาดว่าอิหร่านจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3-7 แสนบาร์เรลต่อวันในเร็วๆนี้ รวมทั้งจะมีการนำน้ำมันดิบและคอนเดนเสตที่เก็บไว้ในเรือขนส่งน้ำมันดิบกว่า 40 ล้านบาร์เรลออกมาจำหน่ายในตลาดโลก
ข่าวเด่น