สภาวะตลาดวันที่ 08 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,097.80-1,112.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,010 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,980 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.12 น.ของวันที่ 08/01/16)

แนวโน้มวันที่ 11 มกราคม 2559
   

การดิ่งลงของราคาน้ำมันสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2004 ทำลายความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับรายงานของธนาคารโลกที่ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชะลอตัวลง ความกังวลดังกล่าวได้สร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ ทั้งนี้ความผันผวนของตลาดหุ้นจีนดิ่งลงในระหว่างสัปดาห์ส่งผลให้มีการระงับการซื้อขายถึงสองครั้ง เหตุการณ์นี้มีส่วนกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายน้ำมันและสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงหุ้นออกมา ขณะที่นักลงทุนกังวลกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลกจะกดดันให้ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างต่อเนื่องและกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานให้มีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับดีลเลอร์ผู้ค้าน้ำมันส่วนใหญ่คาดว่า ราคาน้ำมันอาจจะร่วงลงไปได้อีกในอนาคต หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงมาแล้วเป็นเวลานาน 18 เดือน
  

โดยราคาน้ำมันตลาดโลกอาจจะดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ได้ในช่วงก่อนสิ้นสุดไตรมาสแรกปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นที่อาจดิ่งลงต่อ ทั้งนี้ มุมมองต่อทิศทางราคาทองคำเป็นบวกมากขึ้น เมื่อธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ทองคำสำรองของจีน ณ สิ้นเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.66 ล้านทรอยออนซ์ จาก 56.05 ล้านทรอยออนซ์ ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า ขณะที่ทางการจีนได้เริ่มปรับปรุงข้อมูลทุนสำรองแบบรายเดือนในเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบ การนำเข้าของจีนอาจเพิ่มสูงขึ้น เมื่อสำนักงานศุลกากรจีน ผ่อนคลายกฎระเบียบในการนำเข้าทองคำ
  

โดยทองคำที่นำเข้ามาในจีนเพื่อการใช้ในภาคอุตสาหกรรมนั้นไม่ต้องขอใบอนุญาตจากธนาคารกลางจีนตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมามากเช่นกัน เบื้องต้น หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,112-1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับระดับ 1,090-1,078 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
   

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,112-1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,078 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
 
ทองคำแท่ง (96.50%)
  แนวรับ            1,090 (18,710บาท)        1,078 (18,500บาท)           1,067 (18,310บาท)
  แนวต้าน          1,118 (19,190บาท)        1,135 (19,480บาท)           1,155 (19,830บาท)

GOLD FUTURES (GFG16)
  แนวรับ            1,090 (18,880บาท)        1,078 (18,670บาท)           1,067 (18,480บาท)
  แนวต้าน          1,118 (19,360บาท)        1,135 (19,650บาท)           1,155 (20,000บาท)