คำแนะนำ
   เสี่ยงซื้อในบริเวณ $1,092(ตัดขาดทุนหากหลุด $1,092) ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทองคำ
  แนวรับ 1,092 1,079 1,071
  แนวต้าน 1,112 1,118 1,135

ปัจจัยพื้นฐาน
   ราคาทองคำในรอบสัปดาห์แรกของปี 2016 ปรับตัวขึ้น 38.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความกังวลของเศรษฐกิจจีนที่อาจกดดันให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้เกิดแรงขายออกมาจากตลาดหุ้น ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ความตึงเครียดทางตะวันออกกลางได้ประทุขึ้น ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิหร่าน ยิ่งช่วยหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้อีกทาง ขณะที่ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าขึ้นราว 0.78% ผลักดันให้ราคาทองคาในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาทองคาในตลาดโลก ทั้งนี้ราคาทองคำได้ลดช่วงบวกลงในวันศุกร์หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมซึ่งออกมาถึง 292,000 ตาแหน่ง กดดันราคาทองคาให้ปิดลบในวันเป็นครั้งแรงของปี ในส่วนของกองทุน SPDR ได้เพิ่มการถือครองทองคาตลอดทั้งสัปดาห์ 7.22 ตัน

ปัจจัยเทคนิค
   ราคาทองคำชะลอการปรับขึ้นได้บ้าง เบื้องต้นหากสามารถทะลุ 1,112-1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไป ขณะที่หากราคาอ่อนตัวลงมาก่อน อาจพิจารณาแนวรับระยะสั้นในบริเวณ 1,092 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดจะมีแนวรับสาคัญที่ 1,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน
   การเข้าซื้อจาเป็นต้องรอการอ่อนตัวลงมาในบริเวณ 1,092 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุดลงมา) ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจต้องชะลอหากราคายืนเหนือ 1,092 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

ข่าวสารประกอบการลงทุน
   (-)ปธ.เฟดซานฟรานฯชี้เฟดมีแนวโน้มขึ้นดบ.ค่อยเป็นค่อยไปช่วงหลายปีข้างหน้า นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซาน ฟรานซิสโก กล่าวในวันนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายปีข้างหน้า คากล่าวของนายวิลเลียมบ่งชี้ถึงมุมมองที่สดใสต่อเศรษฐกิจสหรัฐ "เราได้สร้างความคืบหน้าอย่างมาก และเศรษฐกิจกาลังมีการขยายตัวอย่างเต็มที่ ดังนั้น เฟดจึงดาเนินการอย่างถูกต้องในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่แล้ว" เขากล่าว "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ได้ช่วยให้กระบวนการปรับนโยบายสู่ระดับปกติเป็นไปอย่างราบรื่น และค่อยเป็นค่อยไป โดยอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดมีแนวโน้มที่จะพักที่ระดับ 3% หรือ 3.5%" นายวิลเลียมส์กล่าว
    (-)สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด 292,000 ตาแหน่งในเดือนธ.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 292,000 ตาแหน่งในเดือนธ.ค. จากระดับ 252,000 ตาแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่าสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 210,000 ตาแหน่งในเดือนธ.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.9% ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 275,000 ตาแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 17,000 ตาแหน่ง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 307,000 ตาแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 298,000 ตาแหน่ง และทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ 252,000 ตาแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 211,000 ตาแหน่ง
    (-)จีนเผยดัชนี CPI ขยายตัว 1.4% ในปี 2558 ต่ากว่าเป้าของรัฐ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ขยายตัว 1.4% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งต่ากว่าเป้าหมาย 3% ที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ นอกจากนั้นยังต่ากว่าตัวเลขปี 2557 ที่โต 2% สาหรับดัชนี CPI เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.6% หลังจากที่ขยายตัว 1.5% ในเดือนพ.ย. สานักข่าวซินหัวรายงาน
    (+/-)เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจลาตินอเมริกายังคงซบเซาในปี 2559 ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียนยังคงอ่อนแรงในปี 2559 หลังอัตราการขยายตัวหดลงแตะระดับเฉลี่ยที่ 0.9% ในปี 2558 ซึ่งเป็นระดับที่ต่าที่สุดในบรรดา