สภาวะตลาดวันที่ 11 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,099.40-1,108.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,020 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,000 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.02 น.ของวันที่ 11/01/16)
แนวโน้มวันที่ 12 มกราคม 2559
ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยลดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจต่างประเทศอยู่ในภาวะอ่อนแอ ทิศทางของตลาดแรงในสหรัฐที่แข็งแกร่งมากกว่าที่คาดการณ์ สร้างแรงขายทำกำไรเข้ามายังตลาดทองคำ เมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐพุ่งขึ้น 292,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม และมีการปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานเดือนตุลาคม–พฤศจิกายนให้สูงขึ้นจากเดิม 50,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ทองคำถูกกดันมาขึ้นจาก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแข็งค่าขึ้น ขณะที่เทรดเดอร์ปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เมื่อนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธาน เฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตต่อไป, อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีเสถียรภาพ และอัตราการว่างงานยังคงร่วงลงต่อไป อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจาก จากการดิ่งลงของตลาดหุ้น เมื่อนักลงทุนพยายามหลีกเหลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนธันวาคมทำให้นักลงทุนวิตกมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) -5.9% ต่อปีในเดือนธันวาคม ซึ่งติดลบเป็นเดือนที่ 46 ติดต่อกัน และตัวเลขนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า บริษัทผู้ผลิตของจีนเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปิดตลาดดิ่งลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนในวันจันทร์ โดยดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดทรุดลง 5.29% ส่วนดัชนี CSI300 ของ หุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นปิดทรุดลง 5.03% ในระยะสั้นการประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,112-1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,093-1,092 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้งและหากสามารถผ่านแนวต้านแรกได้ราคามีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,093-1,092 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบแกว่งตัวในแบบย้ำฐาน โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวค่อยๆขยับขึ้น โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,112-1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,092 (18,720บาท) 1,079 (18,500บาท) 1,071 (18,360บาท)
แนวต้าน 1,112 (19,070บาท) 1,118 (19,170บาท) 1,135 (19,460บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,092 (18,880บาท) 1,079 (18,650บาท) 1,071 (18,520บาท)
แนวต้าน 1,112 (19,230บาท) 1,118 (19,330บาท) 1,135 (19,620บาท)
ข่าวเด่น