|
|
|
|
|
|
คำแนะนำ
เสี่ยงซื้อในบริเวณ $1,096-$1,091(ตัดขาดทุนหากหลุด $1,086) ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทองคำ
แนวรับ 1,096 1,091 1,086
แนวต้าน 1,114 1,122 1,127
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคาสปอตสหรัฐฯวานนี้ปรับตัวขึ้น 9.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการอ่อนตัวของตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยราคาทองคำเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากมีการคาดหมายกันว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนมกราคมซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดีตามเวลาในประเทศ อย่างไรก็ตามราคาทองคาในประเทศยังปรับตัวขึ้นไม่เท่ากับราคาทองคำในตลาดโลกเนื่องจากถูกกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทซึ่งหลุด 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯลงมาเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสาคัญๆของโลก รวมไปถึงกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับการประชุมของเฟด
ปัจจัยเทคนิค
ราคาทองคำยังคงดีดตัวขึ้นและสามารถยืนเหนือ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นประเมินแนวต้านระยะสั้นที่ 1,114 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังสามารถผ่านไปได้จะมีแนวต้านสาคัญที่ 1,122 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับประเมินที่ 1,096-1,091 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
ยังเน้นการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมายังบริเวณแนวรับ 1,096-1091 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,086 ดอลลาร์ต่อออนซ์) สาหรับการเปิดสถานะขายจาเป็นต้องชะลอออกไปก่อน
ข่าวสารประกอบการลงทุน
(+)ดอลล์ร่วงตามราคาน้ำมัน,ตลาดหุ้น ดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์ ขณะที่แรงขายครั้งใหม่ในตลาดน้ามันกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินที่ปลอดภัย อาทิ ยูโร, ฟรังก์สวิสและเยน สัญญาน้ามันดิบร่วงลง 6% หลังอิรักประกาศการผลิตน้ามันที่สูงเป็นประวัติการณ์ซึ่งเพิ่มปริมาณน้ามันที่ล้นตลาดอยู่แล้ว และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโอเปกส่งสัญญาณว่าพวกเขาไม่มีแนวโน้มที่จะลดการผลิตน้ามันดิบลง นอกเสียจากว่าประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะลดการผลิตลงด้วยตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงตามหุ้นกลุ่มพลังงาน
(+)เฟดดัลลัสเผยภาคการผลิตรัฐเท็กซัสหดตัวเดือนที่ 13 หลังราคาน้ามันทรุด ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในรัฐเท็กซัสดิ่งลงในเดือนม.ค. สู่ระดับ -34.6 จากระดับ -21.6 ในเดือนธ.ค. ดัชนีดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาคการผลิตย่าแย่ลงในรัฐเท็กซัส จากการทรุดตัวของราคาน้ามัน ขณะที่ทางรัฐต้องพึ่งพาการผลิตน้ามันอย่างมาก ดัชนีหดตัวเป็นเดือนที่ 13 ในเดือนม.ค ทั้งนี้ ดัชนีที่มีค่าเป็นบวกบ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะขยายตัว และหากมีค่าเป็นลบบ่งชี้ภาวะหดตัว
(-)IEA ชี้ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันปีนี้ แต่คาดฟื้นตัวปีหน้า นายฟาติห์ บิโรล ผู้อานวยการบริหารของสานักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า ราคาน้ามันจะยังคงถูกกดดันในช่วงขาลงในปีนี้ เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ามันมากเกินไปในตลาด ขณะที่ความต้องการใช้น้ามันมีไม่มากนัก อย่างไรก็ดี เขาคาดว่าราคาน้ามันจะฟื้นตัวขึ้นในปลายปีหน้า นายบิโรลยังคาดการณ์ว่า ราคาน้ามันจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 80 ดอลลาร์ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า
(-)ข่าวอิรักกดน้ามันดิบปิดดิ่งลง 5.8% ราคาน้ามันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 5.8 % ในวันจันทร์ หลังจากมีข่าวว่าอิรักผลิตน้ามันในปริมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค. และข่าวดังกล่าวทาให้ นักลงทุนมุ่งความสนใจกลับมายังปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง หลังจากปัจจัยพื้นฐานเคยส่งผลให้ราคาน้ามันดิบดิ่งลงแตะจุดต่าสุดรอบ 12 ปีที่ 26.19 ดอลลาร์ในวันที่ 20 ม.ค. ทั้งนี้ ราคาน้ามันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 5.8 % มาปิดตลาดที่ 30.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 29.68-32.74 ดอลลาร์
(+/-)เฟดยันเดินหน้าประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์นี้ ไม่หวั่นพายุหิมะถล่ม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกประกาศระบุว่า การประชุมของคณะกรรมการกาหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด จะยังคงมีขึ้นตามกาหนดในวันอังคารและวันพุธนี้ ถึงแม้สหรัฐกาลังเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนจากพายุหิมะก็ตาม "กรรมการ FOMC ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมการประชุมได้ สามารถประชุมผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์" เฟดระบุในเว็บไซต์ ทั้งนี้ เฟดจะเริ่มการประชุม 2 วันในวันพรุ่งนี้ โดยจะสิ้นสุดในวันพุธ ขณะที่จะมีแถลงการณ์การประชุมออกมาเวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 02.00 น. ของเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. แต่ก็จะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่เฟดได้รับก่อนการประชุมดังกล่าว
ที่
|
บันทึกโดย : วันที่ :
26 ม.ค. 2559 เวลา : 11:12:02
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น