สภาวะตลาดวันที่ 27 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,117.13 -1,121.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,040 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,070 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น.ของวันที่ 27/01/16)

แนวโน้มวันที่ 28 มกราคม 2559
   

หน่วยงานของรัฐบาลกลางในวอชิงตันปิดทำการในช่วงปลายสัปดาห์จนถึงอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่มีหิมะตกหนักสูงราว 60 เซนติเมตร ทั้งนี้ วอชิงตันเผชิญกับพายุหิมะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุหิมะที่พัดกระหน่ำทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐในระยะนี้ มีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ประเด็นดังกล่าวหนุนราคาทองคำให้ค่อยๆขยับขึ้น จากความกังวลว่าภาคการผลิตของสหรัฐอาจอยู่ในภาวะซบเซาในเดือนมกราคม ขณะที่ก่อนหน้านี้ภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์และอุปสงค์ที่อ่อนแอ
   

อย่างไรก็ตามแรงซื้อทองคำชะลอตัวลง เมื่อความเชื่อมั่นที่สดใสมาจากการแถลงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชนในสหรัฐ และข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียกำลังพิจารณาการลดการผลิตน้ำมันลง จากความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อตกลงระหว่างฝ่ายต่างๆเมื่อรัฐมนตรีน้ำมันของเวเนซุเอลาจะเดินทางเยือนสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก เพื่อพยายามระดมเสียงสนับสนุนสำหรับการดำเนินมาตรการร่วมกันในการสกัดกั้นการดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้น จากความหวังว่าอาจจะมีการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาดครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน
  

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศถูกแรงกดดันเพิ่มเติมจากบาทค่าดอลลาร์ แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ ที่ 35.77 โดยได้แรงหนุนจากการกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้น ประกอบกับก่อนหน้านี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้างเช่นกัน เบื้องต้น หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับระดับ 1,110-1,103 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
   

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,110-1,103 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,097 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%)
   แนวรับ            1,110 (18,800บาท)        1,103 (18,680บาท)           1,097 (18,570บาท)
   แนวต้าน          1,130 (19,130บาท)        1,138(19,270บาท)           1,144 (19,370บาท)

GOLD FUTURES (GFG16)
   แนวรับ            1,110 (18,930บาท)        1,103 (18,810บาท)           1,097 (18,710บาท)
   แนวต้าน          1,130 (19,270บาท)        1,138(19,410บาท)           1,144 (19,510บาท)