+ ตลาดน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิดเนื่องในวันประธานาธิบดี (Presidents Day) โดยราคาซื้อขายในกระดาน อิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (01.00 น.) ปรับเพิ่มขึ้น 0.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 29.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปสงค์ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดระยะสั้น ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 33.39 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  

+ ราคาน้ำมะนดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลหลังจากตลาดได้รับรายงานว่าจะมีการประชุมหว่างประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ได้แก่ ประเทศซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย กาตาร์ และ เวเนซุเอลา ณ กรุงโดฮา ในวันนี้ (16 ก.พ. 59) เพื่อร่วมเจรจาหารือแนวทางที่จะช่วยทำให้ตลาดน้ำมันกลับสู่สภาวะสมดุล ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศผู้ส่งออกน้ำมันในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกต่างเริ่มมีความพยายามที่จะหาแนวทางเพื่อแก้ไขสถานการณ์ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ
  

- อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายราย รวมทั้งพลังงานสากล (IEA) ยังคงไม่มีความเชื่อมั่นว่าโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ผลิตนอกกลุ่มในการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงได้
  

- ขณะที่อิหร่านยังคงเดินหน้าทำการผลิตและส่งออกน้ำมันเพื่อชดเชยช่วงที่ขาดหายไประหว่างที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร โดยปัจจุบัน อิหร่านมีปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบราว 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มการส่งออกให้มาอยู่ที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปลายปีนี้ และ 2.0ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปีหน้า

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ สอดคล้องกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาด NYMEX ประกอบกับอุปทานที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงปลายเดือน มี.ค. 59 เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาค
  

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลโดยรวมยังคงสามารถขยายตัวได้ จากแรงสนับสนุนของปริมาณอุปสงค์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากประเทศอินเดีย ประกอบกับอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในภูมิภาค

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
  ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 28-35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอ 31-38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
  

จับตาการหารือระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะได้ข้อสรุปในประเด็นปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบได้หรือไม่ หลังล่าสุดทั้งอิหร่านและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกมาแสดงความพร้อมมากขึ้นที่จะเจรจาในประเด็นดังกล่าว
  

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 65 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 89 ของปริมาณถังน้ำมันทั้งหมด โดยประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลว่าพื้นที่ในการจัดเก็บน้ำมันดิบ ณ จุดส่งมอบอาจจะไม่เพียงพอ
  

สถานการณ์ภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินจะเป็นอย่างไร หลัง IEA คาดปีนี้น้ำมันจะยังคงล้นตลาดอยู่ราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไตรมาสแรก และกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาสสอง หลังผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังคงปริมาณการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด