ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังอิหร่านขานรับการสนับสนุนการสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมัน + ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังจากอิหร่านขานรับว่าจะสนับสนุนในการพยายามสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 12 ปี โดยหลังจากที่นายบิจาน ซานกาเนห์ รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่าน ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ส่งออกน้ำมันจากประเทศเวเนซุเอลา อิรัก และกาตาร์ ที่เมืองเตหะรานเมื่อวานที่ผ่านมา ได้กล่าวว่าการเสนอเพดานของกำลังการผลิตน้ำมันนั้นน่าจะเป็นก้าวแรกที่จะสามารถทำให้แก้ปัญหาราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำขณะนี้ได้
  

-/+ ถึงแม้ว่าอิหร่านไม่ได้มีการระบุที่ชัดเจนว่า อิหร่านจะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับเดียวกับเดือน ม.ค. ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ เช่น รัสเซียและซาอุดิอาระเบียจะยังคงมีกำลังการผลิตตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แต่อิหร่านก็แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับกลุ่มโอเปก (OPEC) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี จึงส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก
  

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 12 ก.พ. ปรับตัวลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 499.1 ล้านบาร์เรล เนื่องจากมีการน้ำเข้าน้ำมันดิบลดลง ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ได้ปรับตัวลดลง 175,000 บาร์เรล
  

- จำนวนที่อยู่อาศัยที่กำลังก่อสร้างสหรัฐฯ เดือน ม.ค. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.099 ล้านยูนิต ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.175 ล้านยูนิต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้เกิดผลกระทบต่อการก่อสร้างในบางภูมิภาค

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ที่ตลาด NYMEX แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีอุปสงค์จากทางด้านประเทศอินโดนีเซียที่ยังสนับสนุนให้ราคาน้ำมันเบนซินในตลาดเอเซียไม่ลดลงไปมากนัก
  

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่เริ่มจะตึงตัว หลังจากที่โรงกลั่นน้ำมันที่ส่งออกน้ำมันดีเซลรายใหญ่ในเอเซียเหนือจะเริ่มทำการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นในเดือน มี.ค. นี้

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้  ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 28-35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 31-38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  

ปัจจัยที่น่าจับตามอง จับตาการหารือระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะได้ข้อสรุปในประเด็นปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบได้หรือไม่ หลังล่าสุดทั้งอิหร่านและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกมาแสดงความพร้อมมากขึ้นที่จะเจรจาในประเด็นดังกล่าว ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 65 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 89 ของปริมาณถังน้ำมันทั้งหมด โดยประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลว่าพื้นที่ในการจัดเก็บน้ำมันดิบ ณ จุดส่งมอบอาจจะไม่เพียงพอ สถานการณ์ภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินจะเป็นอย่างไร หลัง IEA คาดปีนี้น้ำมันจะยังคงล้นตลาดอยู่ราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวันไตรมาสแรก และกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาสสอง หลังผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังคงปริมาณการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด