ตลาดหุ้นโลกปิดเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.59) คึกคัก ดัชนีพุ่งแรงทุกตลาด โดยดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 16,453.83 จุด พุ่งขึ้น 257.42 จุด หรือ +1.59% ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,534.07 จุด เพิ่มขึ้น 98.11 จุด หรือ +2.21% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,926.82 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +1.65%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.6% ปิดที่ 328.77 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,233.47 จุด พุ่งขึ้น 122.81 จุด หรือ +2.99% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,377.21 จุด เพิ่มขึ้น 242.10 จุด หรือ +2.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,030.32 จุด เพิ่มขึ้น 168.15 จุด หรือ +2.87%
โดยในตลาดหุ้นนิวยอร์ก นักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% และปิดที่เหนือระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากนายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่านประกาศหลังการประชุมระหว่างรัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นว่า อิหร่านจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2%
ส่วนในตลาดหุุ้นยุโรป หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 10% หุ้นลันดิน ปิโตรเลียม ปรับขึ้น 5% และหุ้นซีดริล ทะยานขึ้น 7.7%ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 17% ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 7% เมื่อคืนนี้
ข่าวเด่น