ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นสหรัฐไปไม่ไกล "ดาวโจนส์" ร่วง 40.40 จุด ตามแรงขายทำกำไร หลังบวกแรง 3 วันติด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นได้ในแดนบวก


หลังตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาดัชนีทะยานพุ่ง 3 วันติดต่อกันกัน พอเข้าวันที่ 4 เจอแรงขายทำกำไรกระหน่ำ ส่งผลดัชนีตกวูบ โดยปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 16,413.43 จุด ลบ 40.40 จุด หรือ -0.25% ,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,917.83 จุด ลดลง 8.99 จุด หรือ -0.47% ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,487.54 จุด ลดลง 46.53 จุด หรือ -1.03%

ขณะที่ฟากตลาดหุ้นยุโรป ดัชนีสามารถขยับขึ้นได้ในแดนบวก โดยปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.59) ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.04% ปิดที่ 328.91 จุด,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,239.76 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด หรือ +0.15% ,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,463.64 จุด เพิ่มขึ้น 86.43 จุด หรือ +0.92% มีเพียงดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ที่ปิด 5,971.95 จุด ปรับตัวลง 58.37 จุด หรือ -0.97%

ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐไปไม่ไกล เนื่องจากถูกแรงเทขายของนักลงทุนทำกำไรจากดัชนีพุ่งขึ้นแรงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ลดแรงบวก ภายหลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงของสหรัฐ หลัง Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนม.ค.ลดลง 0.2% สู่ระดับ 123.2 เพราะผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาหุ้น

ขณะเดียวกันยังถูกปัจจัยกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เกี่ยวกับดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ที่แม้จะขยับขึ้นสู่ระดับ -2.8 ในเดือนก.พ.จากระดับ -3.5 ในเดือนม.ค.แต่นักลงทุนมองว่าดัชนียังคงติดลบเป็นเดือนที่ 6 บ่งชี้ถึงภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการดิ่งลงของราคาน้ำมัน
                
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป แม้ดัชนีส่วนใหญ่จะปรับตัวสูงขึ้น มีเพียงตลาดหุ้นลอนดอนที่ติดลบ แต่ภา
วะการซื้อขายก็เป็นไปอย่างผันผวน จากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลง 0.6% เนื่องจากรายงานของสื่อต่างประเทศที่ระบุว่า ซาอุดิอาระเบียยังไม่มีแผนที่จะปรับลดการผลิตในระยะนี้ และจะเดินหน้าปกป้องส่วนแบ่งตลาดต่อไป
  

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 504.1 ล้านบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 36,000 บาร์เรล สู่ระดับ 64.7 ล้านบาร์เรล ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง อาทิ หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ดิ่งลง 11% ,หุ้นปิโตรแฟค ร่วงลง 5% และหุ้นบีพี ร่วงลง 1.3%
                
                
           

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ก.พ. 2559 เวลา : 11:25:17

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:30 am