คำแนะนำ
หากราคาสามารถ break out กรอบด้านใดด้านหนึ่งอาจก่อให้เกิดแรง follow buyหรือ follow sell ตามมาได้ นักลงทุนควรปรับสถานะ การลงทุนหากราคาทะลุด้านใดด้านหนึ่ง
ทองคำ
แนวรับ 1,211 1,205 1,190
แนวต้าน 1,236 1,243 1,252
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนักจากการปรับตัวลงของราคาน้ามัน โดยวานนี้ราคาน้ามันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงกว่า 4.6%หลังจากรมว.น้ามันซาอุดิอาระเบียตัดโอกาสในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ามัน ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคาซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ราคาทองคายังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการที่อ่อนแอลงอีกด้วย จะเห็นได้ว่าราคาทองคาในระยะนี้มีความผันผวนและเคลื่อนไหวสวนทางกับสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ราคาน้ามันและตลาดหุ้น ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามการเคลื่อน ไหวของสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆอย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ทการลงทุนให้เหมาะสมอยู่เสมอ
ปัจจัยเทคนิค
ราคาทองคำอาจเหวี่ยงตัวในกรอบ 1,205-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวันนี้สามารถ break out กรอบใดกรอบหนึ่งอาจก่อให้เกิดแรง follow buyหรือ follow sell ได้ โดยหากหลุดกรอบล่าง แนวรับถัดจะอยู่ที่ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะหากทะลุกรอบบน แนวต้านจะอยู่ในโซน 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำให้ลงทุนในกรอบ โดยสามารถถือสถานะซื้อต่อหากราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,211-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ปิดสถานะทากาไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้าน 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรปรับสถานะหากราคา break out กรอบด้านใดด้านหนึ่ง
ข่าวสารประกอบการลงทุน
(+) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดเกินคาดในเดือนก.พ. Conference Board เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงเกินคาดสู่ระดับ92.2 ในเดือนก.พ. จาก 97.8 ในเดือนม.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐอาจลดลงสู่ระดับ 97.0 ในเดือนก.พ.
(+) ซาอุดิอาระเบียชี้การลดผลิตน้ามันเพื่อกระตุ้นราคาจะไม่ประสบความสาเร็จ นายอาลี อัล-ไนมี รมว.น้ามันของซาอุดิอาระเบีย กล่าวยอมรับว่า การลดกาลังการผลิตน้ามันเพื่อกระตุ้นราคาจะไม่ประสบความสาเร็จ เขากล่าวเสริมว่า ควรให้ราคาปรับตัวตามกลไกตลาด ถึงแม้สิ่งนี้จะทาให้ผู้ผลิตน้ามันบางรายต้องปิดกิจการก็ตาม นายอัล-ไนมีระบุว่า การลดการผลิตน้ามันจะหมายความว่า ประเทศผู้ผลิตน้ามันที่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตต่า เช่นซาอุดิอาระเบียกาลังให้การอุดหนุนผู้ผลิตน้ามันที่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงกว่า เช่น ผู้ผลิตน้ามันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐ เขาคาดการณ์ว่า ภาวะน้ามันล้นตลาดโลกจะถึงจุดสิ้นสุดในที่สุด แต่เขาไม่ได้ระบุว่าเมื่อใด
(+) ถ้อยแถลงรมว.ซาอุฯกดน้ามันดิบปิดดิ่งลง 4.6% ราคาน้ามันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 4.6 % ในวันอังคารหลังจากนายอาลี อัล-ไนมี รมว.น้ามันซาอุดิอาระเบียตัดโอกาสในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ามัน ทั้งนี้ ราคาน้ามันดิบส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 1.52 ดอลลาร์ หรือ 4.6 % มาปิดตลาดที่ 31.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 31.22-33.53 ดอลลาร์ ราคาน้ามันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนรูดลง 1.42 ดอลลาร์ หรือ 4 % สู่ 33.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 32.90-35.11 ดอลลาร์ นายอัล-ไนมีกล่าวย้าเหตุผลของซาอุดิอาระเบียในการตรึงปริมาณการผลิตน้ามัน โดยเขากล่าวว่า อุปสงค์จะดูดซับอุปทานน้ามันดิบส่วนเกิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ามันดิบให้ดิ่งลงในช่วง 20 เดือนที่ผ่านมา
(-) ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.4% สู่ 5.47 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. จาก 5.45 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดขายบ้านมือสองอาจลดลงสู่ 5.32 ล้านยูนิตในเดือนม.ค
(-) ราคาบ้านในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนธ.ค. สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.8% ในเดือนธ.ค. และเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 5.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ราคาบ้านอาจเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ราคาบ้านอาจเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนพ.ย.
(+/-) แบงก์ชาติอังกฤษยันไม่คาดการณ์ผลกระทบ หากผลประชามติโหวต YES ออกจาก EU นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวต่อคณะกรรมาธิการในรัฐสภาอังกฤษว่า BoE จะไม่ทาการคาดการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นต่ออังกฤษ ในกรณีที่ชาวอังกฤษลงประชามติสนับสนุนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ค่าเงินปอนด์ที่มีความผันผวนในระยะนี้ สอดคล้องกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงก่อนที่สก็อตแลนด์จะทาประชามติเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหราชอาณาจักรในปี 2014 ทั้งนี้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงในสัปดาห์นี้ จากการที่นักลงทุนวิตกต่อการที่อังกฤษอาจจะตัดสินใจออกจาก EU
ข่าวเด่น