นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ต้นตอของปัญหาที่ทำให้เกิดวิกฤตก่อนพฤษภาคม 2557 คือ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า
ไม่เหนือความคาดหมายที่นายองอาจจะเลือกมองอย่างนั้น ใครจะตั้งข้อสังเกตอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ที่คนทั้งประเทศเห็น แตกต่างจากมุมมองของนายองอาจมาก มิใช่วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นจากความจงใจของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อระบอบประชาธิปไตย และต้องการได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารประเทศด้วยวิธีการนอกระบบ มีการวางแผนทำกันเป็นกระบวนการตามทฤษฎีสมคบคิด ขยิบตาส่งซิก แบ่งงานกันทำ
จนถึงบัดนี้ยังอาจมีปัญหาแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวในหลายกลุ่มจนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ก็เป็นได้ ก่อนวิกฤติ22 พ.ค. 2557 ถ้าทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ทำในสิ่งที่พึงทำ ฝ่ายการเมืองก็เดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศตามกรอบทิศทางของกระบวนการประชาธิปไตยภายใต้ระบบรัฐสภา ยุบสภาก็ไปเลือกตั้ง ไม่ไปเป่านกหวีด ชัตดาวน์ปิดประเทศ ไม่ก่อจลาจลขัดขวางการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด บ้านเมืองคงไม่เกิดวิกฤติมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นถ้าใครจะออกมาแนะนำกรธ.ต้องชี้ว่ารัฐธรรมนูญไม่เคยก่อปัญหา แต่ที่ก่อให้เกิดปัญหา คือพวกไม่เคารพกติกา ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ มีการบอยคอตการเลือกตั้ง และก่อจลาจลล้มการเลือกตั้งเป็นท่าไม้ตาย ดังนั้น กรธ.ต้องคิดวิธีที่จะดำเนินการอย่างไรต่อพวกไม่เคารพกติกา ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ
ข่าวเด่น