ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาวิธีตรวจฟิลเลอร์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค


 

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาวิธีตรวจฟิลเลอร์ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เผยผลตรวจฟิลเลอร์ที่ผ่านมาพบเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ถึงร้อยละ 27.3 แนะผู้บริโภคเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.เท่านั้น
 
 

นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กล่าวว่า ปัจจุบันสถานเสริมความงามมีการใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดฉีดเพื่อลดริ้วรอย ที่มักเรียกกันว่า การฉีดฟิลเลอร์ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีหลากหลายชื่อการค้า แต่มีส่วนประกอบหลัก คือ กรดไฮยาลูรอนิก กรดดังกล่าวมีคุณสมบัติในการเก็บกักน้ำได้ดีจึงช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น อย่างไรก็ดี กรดไฮยาลูรอนิกเป็นสารที่ร่างกายมนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้เอง โดยพบได้ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง เส้นเอ็นต่างๆ
 
กรดไฮยาลูรอนิกมีราคาค่อนข้างแพง จึงมีการลักลอบใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมในสถานเสริมความงามบางแห่ง ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เหล่านี้ว่า มีกรดไฮยาลูรอนิกจริงตามที่อ้างไว้ ดังนั้น สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้พัฒนาและตรวจสอบความถูกต้องของวิธีวิเคราะห์ปฏิกิริยาคาร์บาโซลเพื่อใช้เป็นวิธีตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่มีการระบุว่ามีกรดไฮยาลูรอนิกเป็นส่วนประกอบ 
 
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กล่าวว่า จากการตรวจวิเคราะห์ของกลางที่ได้รับจำนวน 27 ตัวอย่าง  ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 5 ตัวอย่าง และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน 22 ตัวอย่าง ผลการตรวจพบว่า ผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตรวจพบกรดไฮยาลูรอนิกร้อยละ 100 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ตรวจไม่พบกรดไฮยาลูรอนิกตามที่กล่าวอ้างไว้ถึงร้อยละ 27.3 แสดงให้เห็นว่า สถานเสริมความงามบางแห่งในประเทศไทยมีการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่ไม่มีกรดไฮยาลูรอนิกเป็นองค์ประกอบตามที่ระบุในฉลาก ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพนอกจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ยังอาจทำให้เกิดอันตรายได้ 

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยผู้บริโภคควรใช้บริการจากสถานเสริมความงามที่ถูกกฎหมาย และใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดฉีดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. อย่างถูกต้องเท่านั้น
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 มี.ค. 2559 เวลา : 15:42:33

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:05 pm