วันนี้(3 มี.ค.59) เวลา 18.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจติดตามการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างและมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนบริเวณจุดเสี่ยง ตามนโยบายมหานครแห่งความปลอดภัย ณ บริเวณทางขึ้น-ลงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนครและธนบุรี
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลการดำเนินการ อาทิ สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานเขตพระนคร สำนักงานเขตบางพลัด สำนักงานเขตบางกอกน้อย กรมทางหลวงชนบท สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้สำนักงานเขตเพิ่มความเข้มข้นในการสำรวจและแก้ไขไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณป้ายรถประจำทาง ถนนสายหลัก ถนนสายรอง สะพานคนเดินข้าม สะพานข้ามแยก และบริเวณจุดมืดเปลี่ยวซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมต่างๆ หากบริเวณใดที่ไฟฟ้าส่องสว่างใช้การได้ให้มีการดูแลให้ใช้งานได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง ส่วนบริเวณที่ไฟฟ้าส่องสว่างชำรุดเสียหายให้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว รวมถึงบูรณาการทำงานดูแลความปลอดภัยร่วมกันระหว่างสำนักงานเขต ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน
สำหรับบริเวณทางขึ้น-ลงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นจุดที่ประชาชนใช้สัญจรเชื่อมต่อรถและเรือฝั่งพระนครและธนบุรี ซึ่งพบว่าแสงสว่างไม่เพียงพอและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชนในยามค่ำคืน กทม.จึงได้ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มเติม อีกทั้งเสริมมาตรการด้านความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ติดตั้งตู้เขียวเพื่อให้สายตรวจเทศกิจหมุนเวียนตรวจความเรียบร้อยและความปลอดภัยในพื้นที่เป็นกรณีพิเศษ และติดตั้งกระจกโค้งเพื่อให้ประชาชนสามารถมองเห็นและสังเกตบุคคลในจุดอับได้ชัดเจนขึ้น
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า บริเวณทางขึ้น-ลงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นจุดเปลี่ยวและมีมุมอับสายตา ดังนั้นกทม.จึงได้เร่งแก้ปัญหา โดยประสานงานกับกรมทางหลวงชนบทซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า อีกทั้งร่วมมือกับตำรวจ และทหารประจำพื้นที่ ดำเนินการสำรวจและเดินหน้ามาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งนับเป็นตัวอย่างที่ดีในการร่วมมือแบบบูรณาการและทำงานเชิงรุกเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ซึ่งทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้กทม.และรัฐบาลได้ดำเนินการสำรวจจุดเสี่ยงในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง หากจุดใดไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ กทม.จะเป็นเจ้าภาพในการประสานงานเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามกทม.จะเดินหน้าลดจุดมืดเปลี่ยวในพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพมหานครต่อไป
ทั้งนี้ กทม.ขอให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นหากพบเห็นไฟฟ้าส่องสว่างชำรุด หรือเป็นจุดมืดเปลี่ยว โปรดแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่ เพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยต่อไป
ข่าวเด่น