ไทยประกันชีวิตปลื้ม ผลวิจัยแบรนด์อยู่ในใจผู้บริโภคในเกณฑ์สูง ชี้มีภาพลักษณ์ผู้นำนวัตกรรมสินค้าและบริการ รวมถึงภาพยนตร์โฆษณาตรึงใจ เผยช่องทางตัวแทนยังเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคเลือก
นายไชย ไชยวรรณ (Chai Chaiyawan) กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (Thai Life Insurance Plc.) เปิดเผยว่า จากผลการวิจัยแบรนด์ธุรกิจประกันชีวิต ของบริษัท อินเทจ (ประเทศไทย) จำกัด ในการศึกษาภาพลักษณ์ธุรกิจผ่านมุมมองผู้บริโภค โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณรวม 4,000 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นคนในกรุงเทพฯ 1,000 ราย ต่างจังหวัด 3,000 ราย โดยเป็นผู้ที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต 1,500 ราย ไม่ได้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต 500 ราย และสุ่มเลือก (Random Sample) อีก 2,000 ราย
จากการวิจัยพบว่า ผู้บริโภคมีความรู้สึกดีและใกล้ชิดกับแบรนด์ไทยประกันชีวิต ดัชนีอยู่ที่ระดับ 2.2 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทประกันชีวิตโดยรวมซึ่งดัชนีอยู่ที่ 1.94 โดยผู้บริโภคมองว่าเป็นแบรนด์ที่มั่นคง มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านสินค้า มีภาพยนตร์โฆษณาที่น่าสนใจ น่าจดจำ และให้ข้อมูลแบบประกันชัดเจน ตัวแทนมีความรู้สามารถนำเสนอแบบประกันที่ตรงตามความต้องการ มีช่องทางชำระเบี้ยประกันที่สะดวก รวมถึงเป็นบริษัทของคนไทย ที่มีมาตรฐานการดำเนินงานแบบสากล
ไทยประกันชีวิต เป็นแบรนด์ที่มี Brand Awareness อยู่ในระดับ 96% รวมถึงมี Top-of-mind Awareness แบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นแบรนด์แรก อยู่ในเกณฑ์สูง ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการ นอกจากนั้น จุดเด่นของแบรนด์ไทยประกันชีวิต คือภาพยนตร์โฆษณาที่สร้างสรรค์สังคม และมีเนื้อหาประทับใจ ส่งผลให้แบรนด์ไทยประกันชีวิตมีภาพลักษณ์ในการเป็นแบรนด์ที่เข้าใจคนไทย และมีอิทธิพลทางความคิดต่อสังคมและวัฒนธรรม
ผลการวิจัยระบุว่า แบรนด์ไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ที่ผู้เอาประกันเกิดความพึงพอใจ อยู่ในระดับสูงถึง 97% โดยพึงพอใจทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่นและรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านการเคลมสินไหม ขณะที่ผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ใช่ลูกค้า มีความประทับใจในภาพยนตร์โฆษณาเป็นอันดับแรก และหากตัดสินใจซื้อประกันชีวิต ไทยประกันชีวิตจะเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่เลือก
สำหรับหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อประกันชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน จะพิจารณาจากการเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีความมั่นคง 26% มีโรงพยาบาลเครือข่าย ไม่ต้องสำรองเงินเมื่อเข้ารักษาพยาบาล 11% ให้ผลประโยชน์คุ้มค่า 8% ขั้นตอนการเคลมหรือการรับผลประโยชน์สะดวกรวดเร็ว 8% และมีแบบประกันที่ตรงตามความต้องการ เงื่อนไขไม่ซับซ้อน 6% ที่เหลือเป็นเหตุผลด้านอื่นๆ
“ขณะเดียวกันผลการวิจัยยังพบว่า ช่องทางตัวแทนประกันชีวิต ยังคงเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อประกันชีวิต โดยมีสัดส่วน 81% เพราะเป็นช่องทางมีความน่าเชื่อถือ มีการดูแลที่เข้าถึง และสามารถจัดสรรกรมธรรม์ที่ตรงตามความต้องการ หรือ Customization ได้ และเมื่อเกิดปัญหาสาสามารถติดต่อตัวแทนได้โดยตรง รองลงมาเป็นช่องทางธนาคาร Bancassurance 16% และช่องทางโทรศัพท์ หรือ Tele Sale 5%” นายไชยกล่าว
ผลการวิจัยที่สะท้อนออกมาในมุมของการบริการที่ดี สะดวกรวดเร็ว น่าจะมีปัจจัยที่มาจากการสร้างสรรค์การบริการที่เป็นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นไทยประกันชีวิตฮอตเคลม บริการจ่ายสินไหมทดแทนรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง กรณีภัยสาธารณะหรือภัยขนาดใหญ่ ไทยประกันชีวิตสมาร์ทเคลม บริการแฟกซ์เคลม 24/7 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ กรณีเข้ารักษาในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน โดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล
บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการฉุกเฉินทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทั่วโลก รวมถึงไทยประกันชีวิต iService บริการพิเศษสำหรับผู้เอาประกัน ในการตรวจสอบข้อมูลและสถานะกรมธรรม์ รวมถึงเรียกร้องค่าสินไหมด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com
นอกจากนั้น ไทยประกันชีวิตยังเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ อาทิ ประกันชีวิตทหาร ซึ่งไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในโลก ที่รับประกันชีวิตหทารทั้ง 3 เหล่าทัพ ประกันพิเศษเพื่อผู้พิการ ประกันก้าวแรก ให้ความคุ้มครองเด็กตั้งแต่แรกเกิด ประกันประเภทไม่เคลมมีคืน
ข่าวเด่น