พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความชื่นชมพี่น้องเกษตรกรที่มีความเข้าใจสถานการณ์น้ำของประเทศ และให้ความร่วมมือกับนโยบายการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชในหน้าแล้งจากข้าวนาปรัง ไปสู่พืชใช้น้ำน้อย และการเลี้ยงปศุสัตว์แทน รวมทั้งการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลหลายโครงการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในระดับฐานรากแบบประชารัฐ และชดเชยการสูญเสียรายได้ มาอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลการสำรวจภาพถ่ายทางอากาศพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรัง พบว่า มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังปี 57/58 ทั่วประเทศ ณ เดือน กุมภาพันธ์ ประมาณ 2 ล้าน 8 แสนไร่ ลดลงจากเดือน มกราคมที่มี 4 ล้านไร่ และหากพิจารณาเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง 22 จังหวัด ก็จะพบว่าพื้นที่ปลูกข้าวลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ มี 1 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นไร่ ลดลงจากเดือนมกราคมที่มี 2 ล้าน 9 แสน 1 หมื่นไร่
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะยังเดินหน้าส่งเสริมมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและครบวงจร โดยล่าสุดคณะกรรมการ BOI ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกปลูกพืชอื่นทดแทนข้าว และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรในตลาดโลก อาทิ กิจการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง มันสำปะหลัง รำข้าว ข้าวโพด ปลาป่น จ.ลพบุรี กิจการผลิตเครื่องดื่มจากถั่วเหลือง จ.สระบุรี กิจการผลิตสารให้ความหวาน จ.ปราจีนบุรี กิจการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง จ.กำแพงเพชร และกิจการผลิตเยื่อกระดาษฟอกขาว จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น
โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้เกษตรกรทำอาชีพทางการเกษตรที่หลากหลาย เป็น Smart farmer เพราะการทำสิ่งเดิม ๆ เมื่อเกิดปัญหาภัยธรรมชาติขึ้น เกษตรกรก็จะได้รับความเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยรัฐบาลยินดีที่จะให้การสนับสนุนทั้งในด้านความรู้ และการส่งเสริมการลงทุนในด้านนี้ เพื่อยกระดับให้สินค้าเกษตรธรรมดากลายเป็นสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย พร้อมทั้งจะเร่งรัดโครงการที่จะช่วยขับเคลื่อนในเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว เช่น โครงการ 1 ตำบล 1 SME เกษตร เป็นต้น
ข่าวเด่น