สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส - บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ
สภาวะตลาดวันที่ 7 มีนาคม 2559
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,257.20-1,268.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 500 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 21,370 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,470 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.19 น.ของวันที่ 07/03/16)
แนวโน้มวันที่ 8 มีนาคม 2559
ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนฟื้นตัวขึ้น เมื่อการประชุมประจำปีของสภาประชาชนของจีนที่กรุงปักกิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปตามที่นักลงทุนมีการคาดการณ์ไว้ หลังจากนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยที่ 6.5%-7% และยอดขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้นปานกลางสู่ 3% ของจีดีพีใน ปี 2559 ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจีนมีเป้าหมายให้ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าอาจจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก ประเด็นดังกล่าวอาจเพิ่มเม็ดเงินลงทุนไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มากนัก เพราะได้รับแรงหนุนค่าเงินหยวนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนเกี่ยวกับนโยบายค่าเงินหยวนของจีน แต่เทรดเดอร์ในตลาดเงินยังคงเพิ่มความระมัดระวังก่อนการเปิดเผยข้อมูลทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศประจำเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอาจจะบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางจีนประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นการไหลออกของเงินทุนหรือไม่ ทั้งนี้ ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอาจลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์ โดยลดลงสู่ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ นักทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นที่คาดหมายว่า อาจจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมอีกระลอกหนึ่ง โดยมีกระแสคาดการณ์ว่า อีซีบีจะปรับเพิ่มขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)ในแต่ละเดือนขึ้นจากระดับ 6 หมื่นล้านยูโรในปัจจุบัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวกดดันให้สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทอคำและกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นอีกทาง ซึ่งอาจส่งผลให้แรงขายทำกำไรทองคำเพิ่มขึ้น ประเด็นดังกล่าวทำให้ตลาดทองคำถูกกดดันและแรงซื้อชะลอตัวลง ประกอบกับนักลงทุนยังคระมัดระวังหลังจากตลาดดีดตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่าน เห็นได้จากตลาดทองคำแกว่งตัวอย่างผันผวน
กลยุทธ์การลงทุน
วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,239 หรือ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,251 (20,970บาท) 1,239 (20,770บาท) 1,230 (20,610บาท)
แนวต้าน 1,280 (21,460บาท) 1,292 (21,660บาท) 1,300 (21,790บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,251 (21,110บาท) 1,239 (20,910บาท) 1,230 (20,750บาท)
แนวต้าน 1,280 (21,600บาท) 1,292 (21,800บาท) 1,300 (21,930บาท)
โดย บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ประจำวันที่ 7 มี.ค. 2559
ข่าวเด่น