การประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในเดือนมีนาคมจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปก่อนหน้านี้ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น, ความผันผวนของตลาดการเงินและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการเมือง
กระแสดังกล่าวกดดันสกุลเงินยูโรและราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ประกอบกับ การคาดการณ์ที่ว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี อาจจะประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไปอีก ยิ่งเพิ่มแรงขายเข้ามาในตลาดทองคำ เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับต่อการที่อีซีบีอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.10% เป็นอย่างต่ำสู่ระดับ -0.4% และเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรอีก 1.0 หมื่นล้านยูโรในทุกเดือน
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงหนุน เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อทองคำในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากข้อมูลการค้าของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ แย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ โดยการส่งออกร่วงลงหนักที่สุดในรอบกว่า 6 ปี และการนำเข้าลดลงเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ขณะที่ความผันผวนของทิศทางราคาน้ำมัน ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนตามไปด้วย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงอีกครั้ง เมื่อสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาและแตะไปอยู่ที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่ความกังวลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากความเห็นที่แตกต่างกันต่อแผนการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันด้วย โดยคูเวตระบุว่าจะตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันก็ต่อเมื่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ทุกประเทศซึ่งรวมถึงอิหร่านเข้าร่วมในมาตรการตรึงปริมาณการผลิต แต่อิหร่านแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ ส่งผลให้นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำนอกกลุ่มโอเปกอีกครั้งเพื่อประเมินสถานการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ระยะสั้นคาดการณ์ว่าราคาทองคำพยายามพยุงราคา โดยอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้างโดย โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองเพื่อสะสมเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,250-1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง หรือตั้งจุดตัดขาดทุนเมื่อราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,250 (20,900บาท) 1,243 (20,790บาท) 1,230 (20,570บาท)
แนวต้าน 1,266 (21,170บาท) 1,280 (21,410บาท) 1,291 (21,590บาท)
ข่าวเด่น