กรมการขนส่งทางบก เผยความคืบหน้าโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” รถใหม่ติดตั้ง GPS เข้าระบบแล้วจำนวน 5,217 คัน ยืนยันระบบพร้อมรองรับข้อมูลจากรถทั่วประเทศ เดินหน้าจัดทำแอพพลิเคชั่นสำหรับติดตามรถทุกคันแบบเรียลไทม์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการขนส่งของผู้ประกอบการ ควบคู่กับกรมการขนส่งทางบก
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” ซึ่งกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกคัน และรถบรรทุกขนาดใหญ่ 10 ล้อขึ้นไป (ยกเว้นรถสองแถว และรถโดยสารหมวด 4 ที่วิ่งภายในจังหวัดในส่วนภูมิภาค) ต้องดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยี GPS หรือเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 จนถึงปัจจุบัน (4 มีนาคม 2559) มีรถโดยสารและรถบรรทุกใหม่ติดตั้ง GPS และเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมการขนส่งทางบกแล้ว จำนวน 5,217 คัน
ในส่วนของรถเก่าที่ได้มีการติดตั้ง GPS ไว้ก่อนหน้านี้ ที่ปรากฏข้อมูลอยู่ในระบบติดตามของศูนย์ฯ เรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 28,397 คัน เป็นรถโดยสารประจำทาง 1,125 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง 2,101 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง 14,914 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 10,257 คัน โดยข้อมูลของรถโดยสารและรถบรรทุกติด GPS ทั่วประเทศ จะเชื่อมโยงเข้าสู่ฐานข้อมูลของศูนย์บริหารจัดการเดินรถ ที่กรมฯ พัฒนาขึ้นรองรับ ซึ่งจะทำให้สามารถนาข้อมูลที่ได้จากระบบ GPS ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแอพพลิเคชั่นที่สามารถติดตามผลจากเครื่องบันทึกข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเปิดให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการสามารถเข้าดูข้อมูลรถในสังกัดตนเองได้ผ่านทางแอพฯ จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขนส่งของผู้ประกอบการ และเป็นเครื่องมือให้กรมการขนส่งทางบกสามารถติดตามกำกับรถในระบบ และนำข้อมูลมาพิจารณาแนวทางการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน
สำหรับแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะแสดงผล การใช้ความเร็ว พร้อมระบบรายงานการใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แสดงผลจำนวนชั่วโมงการทางานของพนักงานขับรถ การใช้ใบขับขี่ผิดประเภท ระบบรายงานการกระทำความผิด รวมทั้งยังสามารถแสดงผลการเคลื่อนที่ของรถที่มีข้อมูลอยู่ในศูนย์ฯ ได้ทันทีแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการได้รับทราบต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ผู้ประกอบการและเจ้าของรถเร่งทยอยนำรถเก่าที่ติดตั้ง GPS ไว้ก่อนแล้ว เข้ารับการตรวจสอบการเชื่อมโยงให้แล้วเสร็จภายในรอบปีภาษี 2559 มิฉะนั้นจะไม่สามารถดำเนินการต่อทะเบียนได้ ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะที่ยังไม่ได้ติดตั้ง GPS กรมฯ ให้ระยะเวลาดำเนินการดังนี้ รถโดยสารสองชั้นต้องติดตั้งภายในรอบปีภาษี 2559 ส่วนรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นๆ จะต้องดำเนินการติดตั้งให้ครบถ้วนภายในรอบปีภาษี 2560
สำหรับรถลากจูงกาหนดติดตั้งภายในรอบปีภาษี 2560 รถบรรทุกสาธารณะภายในรอบปีภาษี 2561 และรถบรรทุกส่วนบุคคลให้ระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรอบปีภาษี 2562 ปัจจุบัน กรมฯ ได้ให้การรับรองเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางแล้วจำนวน 60 รุ่น จากผู้ให้บริการระบบ GPS จานวน 36 บริษัท ซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นรุ่นที่มีรูปแบบการทำงานและคุณสมบัติตรงตามที่กรมฯ กำหนด ผู้ประกอบการและเจ้าของรถสามารถเลือกติดตั้งได้ตามความเหมาะสม โดยสามารถตรวจสอบรายการเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางที่ได้รับการรับรองได้ที่เว็บไซต์ http://apps.dlt.go.th/esb/approve.html ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงเปิดให้ยื่นขอรับรองแบบเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก
ข่าวเด่น