แนวโน้มราคาทอง (14มี.ค.59) โดย YLG Bullion International
มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กดดันให้ยูโรดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ซึ่งฉุดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตามในระหว่างช่วงที่อีซีบีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.10% สู่ระดับ -0.4 % นอกจากนี้ อีซีบีมีมติเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์รายเดือนเป็น 8 หมื่นล้านยูโรจากเดิม 6 หมื่นล้านยูโร ทั้งนี้ สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นและเคลื่อนไหวอยู่ใกล้จุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์และดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นตามเมื่อนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่าอีซีบีไม่คาดว่าอีซีบีจะมีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนก็มุ่งความสนใจไปยังการประชุม กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในวันที่ 14-15 มีนาคมนี้ โดยเป็นที่คาดกันว่าบีโอเจอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปอีก หลังจากที่เพิ่งประกาศใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนมกราคม ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงอาจจะสนับสนุนความเชื่อที่ว่าธนาคารกลางต่างๆ อาจดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนให้อ่อนค่าลงจนอาจนำไปสู่สงครามค่าเงิน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแสดงถึงความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินคาดเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐปรับขึ้นในเดือนมกราคมซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 เดือนทำให้นักลงทุนในตลาดทองคำกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะจางหายไป ประกอบกับทางการจีนพยายามปรับสมดุลเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่อง และทิศทางราคาราคาน้ำมันที่ระดับต่ำเริ่มคลี่คลาย ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 15-16 มีนาคมนี้อย่างใกล้ชิด
แม้เชื่อว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมที่ระดับ 0.25-0.50 % ต่อไปในการประชุมครั้งนี้ แต่เฟดอาจยืนยันว่ามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และ เฟดมีแนวโน้มที่จะระบุในรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2016
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,157 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับ 1,150-1,148 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,257 (20,890บาท) 1,248 (20,740บาท) 1,239 (20,590บาท)
แนวต้าน 1,292 (21,490บาท) 1,300 (21,610บาท) 1,309 (21,760บาท)
ข่าวเด่น