ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(7-11มี.ค.)เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนใกล้ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า (ซึ่งนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตร 4.8 หมื่นล้านบาท และซื้อสุทธิหุ้น 2.4 พันล้านบาท ในสัปดาห์นี้)
นอกจากนี้ เงินบาทยังเพิ่มช่วงบวกได้ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับเงินหยวน และสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจาก ECB ประกาศเครื่องมือผ่อนคลายทางการเงินออกมาหลายด้านในการประชุมวันที่ 11 มี.ค. 2559 โดยมีทั้งการปรับลดดอกเบี้ย (ดอกเบี้ยนโยบายลดลงไปที่ 0% ดอกเบี้ยเงินฝากลดลงไปที่ -0.40% ดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงไปที่ 0.25%) เพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 8.0 หมื่นล้านยูโร และเปิดโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำรอบ 2
สำหรับในวันศุกร์ (11 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.13 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (4 มี.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.00-35.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสัญญาณนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (15-16 มี.ค.) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (14-15 มี.ค.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาเพิ่มเติมระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนมี.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง เดือนก.พ. และข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนม.ค.
ข่าวเด่น