ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขา กสทช. แถลงว่าที่ประชุม กทค.เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 ไม่ขยายมาตรการเยียวยาแต่รับทราบแนวทางที่ ทรูมูฟ เสนอให้ เอไอเอสใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ได้อีกสามเดือนโดยจะคิดเดือนละ 450ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตว่า พฤติการณ์ของ กทค.น่าจะส่อไปในทางที่จะดำเนินกระบวนการพิจารณาทางปกครองเพื่อออกคำสั่งทางปกครองที่มิชอบด้วยกฎหมายและอาจผิดกฎหมายอาญาในลายประเด็นคือ
1. มติ กทค.ไม่อนุมัติขยายระยะเวลามาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการคลื่น 900 ให้เอไอเอส ซึ่งเพิ่งจะได้รับการขยายเวลาเพียง 5 เดือนเศษ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีมติขยายระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการคลื่น 1800 ของทรูถึง 2 ปีเศษ
2. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯพ.ศ.2543 มาตรา 46 กำหนด ห้ามมิให้โอนสิทธิแก่กันแต่ต้องประกอบกิจการด้วยตนเอง การที่ทรูมูฟเรียกเก็บเงินจากเอไอเอสจึงเป็นข้อเสนอที่ผิดกฎหมายและ กทค.ไม่อาจมีมติรับรองข้อเสนอดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นมติที่ขัดต่อกฎหมายเช่นเดียวกัน
และ 3.เมื่อชั่งน้ำหนักข้อเสนอของเอไอเอส ที่จะชำระเงินให้แก่รัฐโดยตรงตอบแทนการขยายระยะเวลามาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการคลื่น 900 ในช่วงคลื่นที่แจสประมูลได้ กับการที่เอไอเอสต้องชำระเงินให้แก่ ทรู เห็นว่าประโยชน์ที่รัฐจะได้มากกว่าคือการให้เอไอเอสชำระกับรัฐบาลโดยตรง แต่ กทค.กลับไม่มีมติตามที่เอไอเอสเสนอ แต่กลับรับทราบกรณีข้อเสนอของทรู ทั้งที่จะทำให้รัฐเกิดความเสียหาย จึงส่อว่าจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอันอาจมีความผิดทางอาญาด้วย
ข่าวเด่น