นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งระดับชาติ ปี 2558/59 (ศก.กช.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏการเสนอข่าวในประเด็น “ประปาโคราชส่ออ่วมแล้ง เหลือน้ำ 15 วัน ซึ่งได้มีการระบุว่าน้ำดิบเหลือแค่ 200,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากความจุกักเก็บทั้งหมด 2,800,000 ลบ.ม. ซึ่งจะใช้งานได้แค่ 15 วันเท่านั้น
และจะไม่สามารถสูบน้ำได้อีกนั้น ขอชี้แจงว่า ในเขตอำเภอนครราชสีมามีผู้ให้บริการน้ำประปาอยู่ 2 ราย ได้แก่ ประปาเทศบาลนครราชสีมา และ การประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา โดยประปาเทศบาลฯ ดูแลในเขตเทศบาลนครราชสีมา ส่วนการประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา ดูแลเขตรอบนอกเขตเทศบาล ซึ่งแหล่งน้ำดิบของประปาเทศบาลฯ จะสูบน้ำจากลำน้ำมูลและเขื่อนลำแชะ ที่อยู่เหนือท่าสูบของ การประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา ในแม่น้ำมูลประมาณ 25 กิโลเมตร โดยปัจจุบันน้ำในแม่น้ำมูลไม่มีให้ การประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา สูบเข้าบ่อพักน้ำที่มีความจุ 2,000,000 ลบ.ม. เพิ่มเติมได้ จึงจะทำให้สามารถบริการน้ำประปาได้อีกประมาณ 15 วัน
ดังนั้น การประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา จึงได้ขอใช้น้ำดิบจากประปาเทศบาลฯ โดยขอให้มีการปล่อยน้ำผ่านลงมาที่ท่าสูบของ การประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา ตามลำน้ำมูลวันละประมาณ 30,000 ลบ.ม. แต่เนื่องจากประปาเทศบาลฯ มีข้อตกลงการสูบน้ำจากเขื่อนลำแชะวันละไม่เกิน 35,000 ลบ.ม. (เดือนละประมาณ 1,000,000 ลบ.ม.) ซึ่งการเพิ่มปริมาณการสูบเป็นวันละ 65,000 ลบ.ม. นั้น จะต้องทำความตกลงกับคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC.) ของเขื่อนลำแชะอีกครั้ง เพื่อขอสูบน้ำเพิ่มสำหรับส่งให้กับการประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชุมทำความตกลงกับ JMC. เขื่อนลำแชะในต้นสัปดาห์นี้โดยเร่งด่วนต่อไป
ข่าวเด่น