(วันนี้ 14 มีนาคม 2559) พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดการซ้อมแผนรองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานของประเทศ ประจำปี 2559 พร้อมด้วย นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารกระทรวงพลังงานระดับสูงเข้าร่วมในการซ้อมแผน โดยจำลองสถานการณ์สมมติสำหรับทำการซ้อมแผนที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และเหตุการณ์อื่นๆ เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้ทุกหน่วยงานเห็นภาพรวม ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหา ที่ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้พลังงาน ณ ศูนย์ประชุมกลาง ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) อาคารบี
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง อาทิ การนำเข้าน้ำมันดิบและวัตถุดิบในการผลิต LPG จากแหล่งตะวันออกกลาง และการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศเมียนมา เป็นต้น เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งพลังงานที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมาได้พยายามทำการสำรวจและจัดหาแหล่งพลังงานใหม่อย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม อีกทั้ง ในช่วงระหว่างวันที่ 19 – 28 มีนาคม 2559 นี้ จะมีการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งซอติกา ของประเทศเมียนมา ซึ่งจะทำให้ก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยนำเข้าจากประเทศเมียนมาหายไปบางส่วน โดยตัวเลขในปี 2558 ประเทศไทยมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศเมียนมาอยู่ที่ 923 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คิดเป็น 18% ของปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย สำหรับการหยุดซ่อมของแหล่งซอติกาดังกล่าวจะทำให้ปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติของประเทศหายไปประมาณ 640 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานได้มีการสั่งการห้ามหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าและแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว และเตรียมสำรองน้ำมันเตาและน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มพิกัด รวมทั้งได้มีการตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชาชนสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการขาดแคลนพลังงาน และไม่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์บริการร่วมกระทรวงพลังงาน โทรศัพท์ 0-2140-7000
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ที่ต้องมีการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศดังกล่าว อาจทำให้ประเทศต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงานหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น ซึงอาจจะส่งผลกระทบต่อการจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศไทย ดังนั้น กระทรวงพลังงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับสภาวะวิกฤตด้านพลังงานที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงได้กำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผน
รองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานของประเทศขึ้นทุกปี โดยได้จำลองสถานการณ์ฉุกเฉินสมมติเพื่อเป็นการระดมความคิด วางแผน และจัดการกับปัญหา หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยมีหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงพลังงานและหน่วยงานด้านพลังงานของประเทศที่เกี่ยวข้องจำนวน 17 หน่วยงาน เข้าร่วมประชุมเพื่อซ้อมแผนและทำความเข้าใจถึงสภาวะวิกฤติต่างๆ เพื่อให้สามารถเตรียมแผนดำเนินการด้านต่างๆ รองรับสภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต อย่างไรก็ดี กลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศอย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากประชาชนทุกคน โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานและลดการใช้พลังงาน เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในสภาวะวิกฤติทางด้านพลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย
ข่าวเด่น