ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส (14 มี.ค.59) โดย YLG


 


สภาวะตลาดวันที่ 14 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,248.50-1,257.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 200 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 21,010 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,160 บาท
 
 
   
แนวโน้มวันที่ 15 มีนาคม 2559
          
คณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานว่า กองทุนเฮดจ์และผู้จัดการกองทุนได้เพิ่มสถานะซื้อสัญญาทองคำในตลาด COMEX สู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 มีนาคม ขณะที่แรงซื้อทองคำหนุนราคาทองพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนกุมภาพัน 2015 ในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาขยับมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเช่นกัน เมื่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นยังคงกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำเห็นได้จากตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ตามการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทะยานขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ระดับปิดสูงสุดของปี 2016 ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และราคาน้ำมันที่ทรงตัวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน เมื่อสำนักงานพลังงานสากลระบุว่าราคาน้ำมันอาจแตะระดับต่ำสุดแล้ว ขณะที่ผลผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐและประเทศอื่นๆ 

นอกกลุ่มโอเปกกำลังเริ่มที่จะลดลงอย่างรวดเร็วและแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1940 ได้สร้างความน่าสนใจในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนระมัดระวังการเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม เพื่อรอดูการประชุมของธนาคารกลางในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่านักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะตรึงนโยบายการเงินไว้ตามเดิมในวันอังคารนี้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงจับตาแถลงการณ์ของบีโอเจอย่างละเอียดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่า บีโอเจสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบหรือไม่ เพราะแนวโน้มการออกมาตรากระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางต่าง ๆ กระตุ้นให้ค่าเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนใกล้ 34.97 บาทต่อดอลลาร์ บาทแข็งค่าขึ้นขณะที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้และหุ้นไทย โดยค่าเงินบาทแข็งค่าและเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียซึ่งกดดันราคาทองคำภายในประเทศให้ขยับขึ้นได้น้อยการกว่าขยับขึ้นของราคาทองคำต่างประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไปบริเวณ 1,228-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,261 หรือ 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

          ทองคำแท่ง (96.50%) 
          แนวรับ 1,240 (20,580บาท) 1,228 (20,380บาท) 1,220 (20,250บาท)
          แนวต้าน 1,261 (20,930บาท) 1,276 (21,180บาท) 1,283 (21,300บาท)

          GOLD FUTURES (GFJ16)
          แนวรับ 1,240 (20,750บาท) 1,228 (20,550บาท) 1,220 (20,420บาท)
          แนวต้าน 1,261 (21,100บาท) 1,276 (21,350บาท) 1,283 (21,470บาท)
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 มี.ค. 2559 เวลา : 17:55:01

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 7:06 am