ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


กลยุทธ์วันนี้  Sideways
 

ตลาดหุ้นวานนี้: 
          ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดทดสอบด่าน 1,400 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มปิโตรเคมี / กลุ่มธนาคาร สอดคล้องกับภาพรวมในเอเชียที่ยังคงตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการของ ECB ขณะที่กลุ่ม ICT เริ่มซึมตัวลง เพราะยังไม่ทราบท่าทีของ JAS ต่อการชำระเงินงวดแรกภายในวันที่ 21 มี.ค. และเกิดแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานมากขึ้น กดให้ SET INDEX ปิดบวก 0.86 จุด มาอยู่ที่ 1,394.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,849 ล้านบาท
          เม็ดเงินทุนต่างชาติกลับมาหนาแน่น ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 9 มากถึง 2,053 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 4,262 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 อีก 5,771 ล้านบาท 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - ความผันผวนในกลุ่ม ICT ที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ 900MHz เพราะ ณ ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนจากทาง JAS
          - กระแสเงินทุนต่างชาติทยอยสะสมหุ้นหลักของไทยต่อเนื่อง
          - ติดตามการประชุมครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาโครงการรถไฟสายสีเหลือง – ชมพู
          - กลุ่มน้ำมันเผชิญกับแรงกดดัน หลังรัสเซียประกาศเลื่อนการหารือกับโอเปก จากวันที่ 21 มี.ค. เป็นเดือนหน้า และยังไม่ได้กำหนดวันอย่างเป็นทางการ

มุมมองต่อตลาด
          เราคงมุมมองต่อการลงทุน “บวก” วันที่ 3 แม้ว่าวานนี้ SET INDEX จะอ่อนแรงลงและปิดต่ำกว่า 1,400 จุด ซึ่งเป็นการพักฐานรอบสั้น เพื่อรอดูประเด็นสำคัญ
          - กระแสเงินทุนต่างชาติ หลังชะลอการสะสมหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดวานนี้ ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหนาแน่นทั้ง 3 ตลาดอีกครั้ง ช่วยปิด downside risk ให้แก่ SET INDEX ช่วงนี้
          - นักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูผลการประชุมเฟดในวันที่ 16 มี.ค. แน่นอนว่ารอบนี้ เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% แต่ความเห็นของเฟดต่อทิศทางเศรษฐกิจ เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการปรับลดลงหรือไม่ รวมถึงความเห็นต่อจำนวนครั้งในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้จะลดลงจาก 4 ครั้งที่เคยพูดไว้หรือไม่
          - การผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลไทย ซึ่งตามตารางเวลาของกระทรวงคมนาคมในเดือนนี้จะต้องมีการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง / สุวรรณภูมิเฟส 2 
          อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่า Sector Rotation ด้วยแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงาน เพื่อปิดความเสี่ยงต่อการประชุมโอเปก – รัสเซียได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนหน้า และกลุ่ม ICT ที่ยังไม่มีความชัดเจนต่อท่าทีของ JAS ขณะที่ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยบวกไปมากแล้ว โดยเราเชื่อว่าเม็ดเงินทุนจะไหลเข้ากลุ่มธนาคาร ที่ยังไม่ขึ้นเครื่องหมาย XD และกลุ่มอสังหาฯ ที่ Valuation ต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง เป็นทางเลือกในช่วงนี้
          เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,388-1,410 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นระดับ 5.0-6.0 หมื่นล้านบาท  

กลยุทธ์การลงทุน 
          เราคงแนะนำให้ “นักลงทุน เข้าเก็งกำไรหุ้นหลัก / High Beta ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เพื่อล้อไปกับบรรยากาศการลงทุนที่เอื้อในช่วงนี้” 

          Speculative Buy: AAV

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ได้แก่
          1.   AAV  : ราคาปิด 5.20 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
          a)   MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะตอบรับเชิงบวก จากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับฐานลงเมื่อคืนนี้ โดยราคาน้ำมันดิบ NYMEX -3.4% และ BRENT -0.8% หลังรัสเซียให้ความเห็นว่าการประชุมกับกลุ่มโอเปคอาจเลื่อนจากวันที่ 20 มี.ค. ไปเป็นเดือน เม.ย. ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ 
          b)   คาดผลประกอบการ 1Q59 จะเติบโตสูงทั้ง  yoy และ qoq เป็น 600 – 700 ล้านบาท จาก Load Factor ที่เพิ่มขึ้นเป็น 85% จาก 1Q58 ที่ 83% และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันอากาศยานที่ปรับตัวลง โดยมีการทำ Hedging น้ำมันไว้แล้ว 50% ดังนั้น คาดว่าต้นทุนน้ำมันใน 1Q59 จะลดลงเหลือ US$50.00/barrel เทียบกับ 1Q58 ที่ US$85/barrel 
          c)   ได้อานิสงค์จากปัญหาของสายการบินนกแอร์ที่ประกาศยกเลิกเที่ยวบินวันละ 60 เที่ยวจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบิน AAV เพิ่มขึ้น เนื่องจาก AAV มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดของ Low Cost Airline ที่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศ 
          a)   ทิศทางกำไรปี 2559 คาดว่าจะเติบโตสูง +50-60% yoy และ Valuation ไม่แพง ซื้อขายระดับ PBV2559 ที่ 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นสายการบินในภูมิภาคที่ 1.3 เท่า

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 13 อีก US$474 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$500 ล้าน 

Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติกลับมาหนาแน่นอีกครั้ง 
          นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 9 มากถึง 2,053 ล้านบาท รวม 9 วันทำการซื้อสุทธิ 17,900 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นทะลุ 10,000 ล้านบาท เป็น 10,280 ล้านบาท
          SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long อีกครั้ง 4,262 สัญญา คาดเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อ S50H16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.24 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ  และทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิยืนเหนือ 120,000 สัญญา เป็น 126,011 สัญญา  
          และคงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 6 อีก 5,771 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ซื้อสุทธิ 53,911  ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 0.47bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมากถึง 5.91bps ปิดที่ 1.973%

Short-Selling วานนี้ 
เร่งขึ้นเป็น 1,118 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 866 ล้านบาท 

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 โดยกระจุกตัวใน CPALL กว่า 50%
          การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิมากถึง 5,504 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิ CPALL ถึง 2,730 ล้านบาท และเป็นการซื้อสุทธิรวมที่มากขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 2,932 ล้านบาท รวม 10 วันทำการ ซื้อสุทธิ  32,215 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิแบบ Basket orders เช่นเดียวกับวันก่อนหน้า สรุปภาพรวมได้ดังนี้
          1.  กลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิสูงสุด 2,709 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 249 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 887 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 631 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 801 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 642 ล้านบาท กลุ่มอาหารซื้อสุทธิ 341 ล้านบาท และกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 200 ล้านบาท 
          2.   ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 26 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          ไม่มี

ยุโรป
          ไม่มี

จีน          
          ไม่มี

เอเชียแปซิฟิก
          อัตราเงินเฟ้ออินเดียเริ่มชะลอ
          ดัชนีราคาผู้ผลิตอินเดียเดือนก.พ. ลดลง 0.91% yoy ใกล้เคียงกับเดือนม.ค.ที่ 0.90% yoy แต่หดตัวมากกว่าที่ Bloomberg consensus คาด -0.19% yoy 
          อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.51% yoy ลดลงจากเดือนม.ค.ที่ 5.69% yoy 
          โอเปกปรับลดประมาณการปีนี้ลง: อุปสงค์ปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 31.5 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจากประมาณการเดือนก.พ.ที่ 31.6 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน 
          คำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์: เพิ่มขึ้น 15% mom สำหรับเดือน ม.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้า 1.0% mom และมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด +1.9% mom โดยเป็นการขยายตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2548 ทั้งนี้คำสั่งซื้อภาคการผลิตขยายตัว 41.2% mom สูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย 2530 รวมถึงคำสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมเหล็ก 

ไทย
          กสทช.มอบใบอนุญาต คลื่น 900MHz ให้ TRUE: กสทช. มอบใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 3 และใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz ให้กับ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) ผู้ชนะการประมูลในชุดที่ 2 คลื่น 905-915 MHz คู่กับคลื่น 950-960 MHz (10 MHz) มูลค่าการประมูล 76,298 ล้านบาท มีอายุใบอนุญาต 15 ปี โดยมี นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้รับมอบใบอนุญาต
          ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนมี.ค.ฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน: สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยถึง ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ประจำเดือนมีนาคม 2559ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นการลงทุนในตลาดหุ้น3 เดือนข้างหน้า ว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 94.30 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการสำรวจเดือนที่ผ่านมา 31.15% จากระดับ 71.90 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนแต่ดัชนีอยู่ในกรอบทรงตัว กลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่ปรับตัว เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 100 จากการสำรวจครั้งก่อนที่อยู่ที่ระดับ 10 ซึ่งหุ้นในหมวดอุตสาหกรรมที่น่าสนใจที่สุด คือ ธนาคาร ขณะที่หมวดอุตสาหกรรมที่ไม่น่าสนใจ คือ เหล็ก ปัจจัยหนุนที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยคือนโยบายภาครัฐที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น และการใช้นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 15 มี.ค. 2559
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 มี.ค. 2559 เวลา : 10:30:01

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 6:39 am