หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน วันที่16มี.ค.2559น้ำมันดิบปรับลดติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ระดับสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 2 วานนี้ และเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ ได้รายงานตัวเลขเบื้องต้นของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวลดลง รวมไปถึงมีโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐฯ ได้ทำการปิดซ่อมบำรุง
- นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสัญญาณเทคนิคซึ่งบ่งบอกถึงการปรับตัวลดลง หลังราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องจนไปแตะระดับที่สูงที่สุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางส่วนได้ออกมาเปิดเผยว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบอาจจะยังไม่สิ้นสุดลง
- ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดยังมีความกังวลถึงความไม่แน่นอนของนโยบายด้านการเงินจากการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะออกแถลงเกี่ยวกับความเห็นทางด้านเศรษฐกิจ และทิศทางของดอกเบี้ยเชิงนโยบายในคืนนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลง โดยธนาคารกลางของสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่ได้ชะลอแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป
- US Census Bureau ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 พบว่าปรับตัวลดลงร้อยละ 0.1 จากเดือนที่ผ่านมา ชะลอตัวลงจากเดือนมกราคม 2559 ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.4 จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งบอกถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอในไตรมาสแรกของปี 2559 หลังจากที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 ที่ร้อยละ 0.2
+ ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 พบว่าทรงตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลกระทบจากอาหารและพลังงานพบว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมอาหารและพลังงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกของประเทศจีนและเกาหลีใต้ ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันเบนซินของประเทศอินโดนีเซียได้ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ยังคงล้นตลาดอยู่ในภูมิภาคจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศบังคลาเทศ
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 34-40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 36-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 15-16 มี.ค. นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.25 - 0.5%
ติดตามการประชุมนัดพิเศษระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบในและนอกกลุ่มโอเปกที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 มี.ค.และ 1 เม.ย.นี้ เพื่อหามาตรการในรักษาเสถียรภาพราคาของราคาน้ำมันดิบ ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับสถานที่และเวลาได้
จับตาปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักทางตอนเหนือคาดจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังตุรกีเพิ่มกำลังทางทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ส่งผลให้การซ่อมแซมท่อขนส่งน้ำมันดิบกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวันอาจจะเปิดดำเนินการได้ในเร็วๆนี้
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2559
ข่าวเด่น