นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 5,598 ราย ลดลง 151 ราย คิดเป็น 3% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 5,749 ราย และใกล้เคียงกับเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 5,631 ราย ซึ่งลดลง 33 ราย คิดเป็น 0.6% สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีจำนวน 922 ราย ลดลง 547 ราย คิดเป็น 37% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2559 โดยธุรกิจที่เลิกสูงสุดคือธุรกิจค้าสลาก จำนวน 149 ราย คิดเป็น 16% ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากธุรกิจไม่ได้ประกอบกิจการ
มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 22,026 ล้านบาท ลดลงจำนวน 6,170 ล้านบาท คิดเป็น 22% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 28,196 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจำนวน 7,211 ล้านบาท คิดเป็น 49% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งมีจำนวน 14,815 ล้านบาท ขณะที่ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 699 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 284 ราย ให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 173 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 161 รายและภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 130 ราย
ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,307,368 รายมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 20.01 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน626,299 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.63 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 445,643ราย บริษัทมหาชนจำกัด1,113 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,543 ราย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ลดลง 3% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (ม.ค.59) และใกล้เคียงกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.58) โดยลดลงคิดเป็น 0.6% ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มการจดทะเบียนที่เดือนกุมภาพันธ์ มีวันทำการน้อยกว่าเดือนอื่นๆ จึงทำให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งลดลง
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดว่าในปี 2559 จะมีแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่อยู่ระหว่าง 60,000 - 65,000 ราย สูงกว่าปี 2558 ซึ่งมีทิศทางสอดคล้องกับการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะขยายตัวร้อยละ 2.8 - 3.8 มีค่ากลางที่ร้อยละ 3.3 เนื่องจากปัจจัยสนับสนุน คือ การเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ,แรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศเพิ่มเติมในช่วงเดือนกันยายน 2558 - มกราคม 2559 ,แนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการส่งออก
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2558 และ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การส่งออกของไทยภาวะภัยแล้ง รวมทั้งการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท
ข่าวเด่น