นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง เตรียมปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามันระหว่างวันที่ 1 เม.ย. -30 มิ.ย.นี้ ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง เพื่อเปิดโอกาสให้สัตว์น้ำในฤดูที่ปลามีไข่และวางไข่เลี้ยงลูก เพื่อเพิ่มประชากรสัตว์น้ำ
โดยห้ามเครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในระหว่างนี้ หากพบผู้ใดฝ่าฝืนเข้าจับกุมทันที และดำเนินการตามกฎหมายประมงฉบับใหม่ โดยบูรณาการกับศูนย์ประสานการปฏิบัติงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล) และเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายประมงตามกฎไอยูยู
มาตรการปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ให้สัตว์น้ำได้วางไข่ ขยายพันธุ์ และเจริญเติบโต สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่สำคัญทางเศรษฐกิจของไทยเป็นแหล่งอาหารยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันสัตว์น้ำในแหล่งตามธรรมชาติเสื่อมโทรม เกิดการลักลอบทำการประมงในเขตหวงห้ามในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในฝั่งทะเลอันดามัน จึงกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูที่ปลามีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,935,000 ไร่ ใน 4 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน
ในปีที่ผ่านมา ผลการสำรวจสภาวะทรัพยากรสัตว์น้ำ พบว่ามาตรการปิดอ่าวสามารถเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำได้สูงถึง 2.61 เท่า ทำให้สัดส่วนของปลาเศรษฐกิจและปลาเศรษฐกิจขนาดเล็ก มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ข่าวเด่น