นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ชี้แจงแนวทางปฏิบัติกรณีที่สำนักงาน กลต.ได้กล่าวโทษและปรับผู้บริหาร กรรมการ ในบริษัทจดทะเบียน ดังนี้
ตามที่ สำนักงาน กลต.ได้กล่าวโทษและปรับผู้บริหาร กรรมการ ในบริษัทจดทะเบียนไปล่าสุด 5 บริษัท ได้แก่ “MLINK / WHA / BKI / AMC / GLOBAL และ GLOBAL-W” ด้วยความผิดให้ข้อมูลเท็จ หรืออินไซเดอร์เทรดดิ้ง เมื่อวันพุธที่ 16 มีนาคม 2559 ไปแล้วนั้น ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน มิได้เพิกเฉยหรือปฏิบัติด้วยมาตรฐานที่ต่างกันกับกรณีอื่น เราใช้เวลาในการหาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับกรณีที่เกิดแก่ทั้ง 5 บริษัทนี้ ซึ่งพบว่าใน 5 บริษัทนั้น มี 4 บริษัท ที่มีกรรมการกระทำความผิด (ส่วนกรณีบริษัท AMC ผู้กระทำผิดไม่ใช่กรรมการ)
สิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนคือ ในการลงทุนของกองทุนนั้น กองทุนลงทุนในกิจการ ลงทุนในตัวบริษัท ไม่ได้ลงทุนในตัวบุคคลผู้บริหารหรือกรรมการ ดังนั้น หากผู้บริหารหรือกรรมการที่กระทำความผิดได้รับโทษและถอยห่างออกจากการทำหน้าที่แล้ว และบริษัทเหล่านั้นได้มีการแจ้งแนวทางแก้ไขเพื่อมิให้เกิดกรณีเช่นนั้นอีก ผู้จัดการกองทุนต่างๆ เขาก็จะพิจารณาเองว่าบริษัทนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจที่จะลงทุนต่อไปหรือไม่
ส่วนบริษัทที่ยังมิได้มีการปฏิบัติไปตามที่สมาคมฯ คาดหวัง เราก็จะดำเนินการไม่ต่างกับกรณีที่เคยเกิด ซึ่งถ้าผู้จัดการกองทุนเขาเห็นว่ายังเป็นกิจการที่ดี เขาก็ไม่ขายออกไป แต่จะไปใช้สิทธิทวงถามในการประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยความมุ่งหวังให้บริษัทมีการดำเนินการที่ถูกต้อง และเป็นกิจการที่น่าลงทุนต่อไป
แต่ถ้าผู้จัดการกองทุนรายใดเขาไม่ไว้วางใจในบริษัทนั้นๆ แล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารไปแล้วหรือไม่ เขาก็คงจะขายออกในจังหวะเวลาที่เขาพิจารณาว่าเหมาะสม
ทั้งนี้ สมาคมฯ กำลังออกหนังสือขอความร่วมมือจากบริษัทต่างๆ เหล่านั้น ด้วยเนื้อหาที่ไม่ต่างจากที่ได้เคยปฏิบัติไปแล้ว เพื่อสร้างบรรทัดฐานเป็นแบบอย่างที่ดีของตลาดทุน
ส่วนการที่ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์นั้น เนื่องจากจะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนเสียก่อน และไม่ต้องการให้เนื้อหาที่ออกสื่อผิดเพี้ยนไป อันอาจก่อให้เกิดความคาดหวัง ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้รับทราบมาว่า สำนักงาน กลต. จะมีการประชุมคณะกรรมการในเดือนเมษายนนี้ โดยหนึ่งในวาระที่จะพิจารณาคือเรื่องการปรับปรุงเกณฑ์ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน เพราะมีการปฏิบัติที่แตกต่างและทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในปัจจุบัน
กล่าวคือในปัจจุบันนี้ ผู้บริหารหรือกรรมการที่ถูกเปรียบเทียบปรับตามความผิดไปแล้วนั้น ทางสำนักงาน กลต.ไม่ได้ห้ามการทำหน้าที่ต่อ แต่ในกรณีเดียวกันนี้ถ้าเป็นผู้บริหารหรือเป็นกรรมการของบริษัทจดทะเบียนที่มีใบอนุญาตนายหน้า ค้า หรือจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน สำนักงาน กลต. จะถือว่าเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน บุคคลเหล่านั้นจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการหรือบุคคลากรในตลาดทุนได้เลยในช่วงระยะเวลาที่ กลต.กำหนด
แนวทางนี้ ทราบมาว่าทางสำนักงาน กลต. เห็นว่าควรมีการปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งสมาคมฯ คาดหวังว่าจะพิจารณาให้มีการปฏิบัติที่เท่าเทียม และเหมาะสมกับระดับการกระทำความผิดของแต่ละกรณีด้วย
นางวรวรรณ กล่าวว่า ในส่วนเฉพาะของ บลจ.บัวหลวง นั้น เราได้ดำเนินการกันภายในตามมาตรฐานการกำกับดูแลของเรา โดยฝ่ายกำกับดูแลฯ ได้ขึ้นบัญชีบริษัทเหล่านั้นที่มีอยู่ใน Universe การลงทุนของเรา ให้เป็นหลักทรัพย์ต้องห้ามมิให้ซื้อเพิ่มตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2559 ไปแล้ว และหากบริษัทใดยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้บริหารและกรรมการที่กระทำผิด ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ในเวลาอันควร เราก็จะมีหนังสือจาก บลจ.บัวหลวง ไปยังประธานกรรมการของบริษัทที่เรามีการลงทุน
ข่าวเด่น