กรมควบคุมโรคไทย–ลาว หารือความร่วมมือป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมเปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวแห่งแรกในภาคอีสาน
วันนี้ (21 มีนาคม 2559) นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย พร้อม ดร.บุนหลาย พมมะสัก อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และคณะผู้บริหารจากทั้งสองประเทศ ร่วมหารือตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้านการป้องกันควบคุมโรค เพื่อรองรับโรคติดต่อระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นภายหลังจากการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งอาจมีการแพร่ระบาดและกลายเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศได้
โดยการหารือความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือแบบทวิภาคี ภายใต้กรอบความร่วมมือตามบันทึกการเจรจา ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว และราชอาณาจักรไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทยและ สปป.ลาว ได้ลงนามไว้ร่วมกันที่กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อปี พ.ศ.2549 โดยได้ตกลงร่วมกันที่จะสร้างความร่วมมือด้านสุขภาพ ซึ่งประเด็นที่หารือ ได้แก่ การป้องกันควบคุมโรค/ กำจัดโรคโปลิโอ, โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า, โรคไข้เลือดออก, โรคไข้มาลาเรีย, โรคพิษสุนัขบ้า, โรคเขตร้อน รวมถึงโรคอื่นๆ ซึ่งสาระสำคัญของการหารือความร่วมมือ คือ 1.มีการสอบสวนโรคร่วมกันของทั้งสองประเทศ 2.มีการแบ่งปันข้อมูลสถานการณ์ของโรคต่างๆ และ 3.ความร่วมมือทางห้องปฏิบัติการ เป็นต้น ทั้งนี้เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการป้องกันควบคุมโรคในภูมิภาคอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อไปว่า ในวันเดียวกันนี้ กรมควบคุมโรคดำเนินการเปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ที่โรงพยาบาลหนองคาย เป็นแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจังหวัดหนองคาย เป็นจังหวัดชายแดนเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และมีช่องทางเข้าออกประเทศเชื่อมกับ สปป.ลาว ได้หลายทาง ทำให้มีการติดต่อระหว่างประเทศอย่างหนาแน่น ซึ่งมีผู้เดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคำแนะนำด้านสุขภาพจำนวนมาก
หลักในการดำเนินงานของคลินิกฯ คือ 1.การให้คำแนะนำและการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ก่อน ระหว่าง และหลังการเดินทาง 2.การสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน 3.การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาและการสอบสวนโรค 4.การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเดินทาง 5.การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว 6.การพัฒนาเครือข่ายและการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ทั้งด้านวิชาการและด้านการป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพให้กับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางระหว่างประเทศ 7.การวิจัย 8.การประเมินผลมาตรฐานตามแนวทางกรมควบคุมโรค หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
ข่าวเด่น