นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ตามที่ ทอท.ได้มีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 – 2560) ซึ่งมีรายละเอียดของงาน 7 งาน ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก)
งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) และงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) นั้น
ทอท.ได้ดำเนินการจัดทำเอกสารประกวดราคาและราคากลางแล้วเสร็จ 2 งาน ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) งบประมาณ 14,164.41 ล้านบาท และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค งบประมาณ 2,564.97 ล้านบาท
โดย ทอท.ได้ประกาศประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้างสำหรับงานดังกล่าวระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 4 เมษายน 2559 และให้มีการยื่นซองเสนอราคาใน วันที่ 20 มิถุนายน 2559 สำหรับงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) และยื่นซองเสนอราคาใน วันที่ 21 มิถุนายน 2559 สำหรับงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค งบประมาณ หลังจากนั้นจะมีการประกาศผลการประมูลภายในวันที่ 20 และ 21 กรกฎาคม 2559 ตามลำดับ และคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2559
สำหรับคุณสมบัติของผู้รับจ้างงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) จะต้องมีผลงานได้แก่ ผลงานการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร หรืออาคารเทียบเครื่องบิน หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษที่เป็นสัญญาฉบับเดียวมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,100 ล้านบาท ผลงานการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินที่เป็นสัญญาฉบับเดียวมูลค่าไม่น้อยกว่า 630 ล้านบาท และผลงานการก่อสร้างทางวิ่ง และ/หรือทางขับ และ/หรือลานจอดอากาศยานที่เป็นสัญญาฉบับเดียวมูลค่าไม่น้อยกว่า 490 ล้านบาท
คุณสมบัติของผู้รับจ้างงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคจะต้องมีผลงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้า และระบบสุขาภิบาล คือ ผลงานด้านการก่อสร้างระบบไฟฟ้า ได้แก่ ผลงานก่อสร้างระบบไฟฟ้า แรงสูงระบบสายใต้ดินที่มีขนาดแรงดันไม่ต่ำกว่า 115 kV งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าที่มีขนาดแรงดันไม่ต่ำกว่า 115 kV งานก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้าระบบสายใต้ดินที่มีขนาดแรงดันไม่ต่ำกว่า 24 kV ซึ่งผลงานด้านการก่อสร้างระบบไฟฟ้าจะต้องมีมูลค่ารวมกันไม่น้อยกว่า 350 ล้านบาท ส่วนผลงานด้านการก่อสร้างระบบสุขาภิบาล ได้แก่ งานก่อสร้างสถานีสูบจ่ายน้ำประปาหรือท่อส่งน้ำประปาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 800 มิลลิเมตร งานก่อสร้างท่อจ่ายน้ำประปาหรือท่อรวบรวมน้ำเสียชนิดแรงดัน และงานก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียแบบตะกอนเร่งขนาดไม่น้อยกว่า 9,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยผลงานด้านการก่อสร้างระบบสุขาภิบาลจะต้องมีมูลค่ารวมกันไม่น้อยกว่า 130 ล้านบาท
ข่าวเด่น