วันนี้ (23 มี.ค. 59) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หารือกับภาคเอกชนของเกาหลี ระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2559 สรุปสาระสำคัญดังนี้
ภาคเอกชนของเกาหลี ประกอบด้วย นายฮง คี เพียว รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัทแดวู และคณะผู้บริหาร นายจาง ซุน วุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Lotte Duty Free นายยุน บู คึน ประธานเจ้าหน้าบริหารและผู้บริหารซัมซุง และคณะผู้บริหาร Hana Bank
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนบริษัทแดวูเข้ามาร่วมลงทุนในไทย ทั้งการร่วมปรับปรุงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา การยื่นประมูลพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 การขุดเจาะอุโมงค์เส้นทางรถไฟฟ้าหลายเส้นทางในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทแดวูมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการสร้างท่าเรือน้ำลึก รถไฟฟ้า ถนน การขุดเจาะอุโมงค์ และการขุดลอกคลอง โดยบริษัทมีความสนใจเข้าร่วมประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง ซึ่งเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้นักลงทุนเกาหลีเริ่มมีความอุ่นใจต่อการต้อนรับจากรัฐบาลไทย ทำให้นักลงทุนเกาหลีเริ่มมีแผนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
ส่วนการหารือกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Lotte Duty Free นั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้ บริษัท Lotte Duty Free พิจารณาเข้าไปเปิดร้าน Duty Free ที่สนามบินเชียงใหม่ และภูเก็ต เนื่องจากเป็นสนามบินที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปจำนวนมาก เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เนื่องจากคิงพาวเวอร์ได้รับสัมปทานพื้นที่ ซึ่งสัญญาสัมปทานจะครบกำหนดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้หารือกับประธานเจ้าหน้าบริหาร และผู้บริหารซัมซุง โดยกล่าวเชิญชวนให้ขยายการลงทุนมายังไทย เนื่องจากขณะนี้ซัมซุงมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในหลายด้าน ทั้งนี้ซัมซุงเตรียมเปิดสายการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในปีหน้า โดยจะจำหน่ายในประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 20 และอีกร้อยละ 80 ผลิตเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ซัมซุงยังมีความเชี่ยวชาญด้านระบบไอที และพร้อมให้ความร่วมมือด้านการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ของไทย
ส่วนการหารือกับผู้บริหาร Hana Bank ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของเกาหลี โดยธนาคารต้องการขยายการลงทุนไปยังไทย เพื่อรองรับนักลงทุนเกาหลีที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับแนวทางขยายการลงทุน เนื่องจากการเปิดสาขาในประเทศต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมหาช่องทางร่วมลงทุนกับธนาคารขนาดเล็กของไทย เพื่อเป็นช่องทางขยายสาขาได้อีกทางหนึ่ง โดยขณะนี้ได้ร่วมมือกับพันธมิตรไทยขยายการลงทุนดังกล่าว
ทั้งนี้นักลงทุนเกาหลีที่มาหารือไม่ได้ขอสิทธิพิเศษใดๆเป็นกรณีพิเศษ เพียงขอความเชื่อมั่นจากรัฐบาลในการรองรับการขยายการลงทุนมายังไทย
ข่าวเด่น