นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – กุมภาพันธ์ 2559) จัดเก็บได้ 898,061 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 43,876 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.8) โดยการนำส่งรายได้ของหน่วยงานอื่น การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเบียร์สูงกว่าประมาณการ 54,201 6,145 และ 4,418 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.3 5.1 และ 12.6 ตามลำดับ
นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการนำส่งรายได้ของหน่วยงานอื่นที่สูงกว่าประมาณการ การบริโภคภายในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้ และผลจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการผลักดันระบบ National e-Payment และการจัดทำบัญชีเดียวของผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งคาดว่าหากสามารถทำได้สำเร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานจัดเก็บและจะช่วยส่งเสริมให้กระทรวงการคลังสามารถจัดเก็บรายได้รัฐบาลได้ตามเป้าหมาย
ที่วางไว้”
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนกุมภาพันธ์ 2559และในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – กุมภาพันธ์ 2559)
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 154,068 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ
12,369 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.0) เนื่องจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 898,061 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 43,876 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.8) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของหน่วยงานอื่น การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเบียร์สูงกว่าเป้าหมาย รายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. เดือนกุมภาพันธ์ 2559
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 154,068 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 12,369 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.0) เนื่องจากจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ต่ำกว่าประมาณการ 6,381 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.3 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.9) โดยส่วนใหญ่มาจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงได้ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียมและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมต่ำกว่าประมาณการ 4,457 และ 3,367 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.0 และ 44.3 ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ภาษีเบียร์ ภาษีสุรา และภาษีน้ำมัน จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,231 1,013 และ 923 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.8 17.6 และ 6.7 ตามลำดับ และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 1,897 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.8 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 32.2) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสูงกว่าประมาณการ
2. ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – กุมภาพันธ์ 2559)
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 898,061 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 43,876 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.8) โดยการนำส่งรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการ 54,201 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.3 เนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz (4G)
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 597,954 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 27,837 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.9) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่
ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 18,699 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.9(ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว) โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 16,126 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.7) เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลง ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,573 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.4 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.1)
ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 12,228 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.1(สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.0) เนื่องจากภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาคเอกชน (ภ.ง.ด. 53) และภาษีจากประมาณการกำไรสุทธิ (ภ.ง.ด. 51) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญอย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 6,145 ล้านบาท
หรือร้อยละ 5.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.1) โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาคเอกชนจากเงินเดือน (ภ.ง.ด. 1)
และอสังหาริมทรัพย์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ เนื่องจากการขยายตัวของฐานเงินเดือนที่สูงกว่าประมาณการและผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 211,559 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,363 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.4) โดยภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 4,418 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.3) เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งชำระภาษีเพื่อรองรับฉลากผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงที่ผ่านมา และภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,439 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.7) เนื่องจากการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสุราจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 819 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.0) เนื่องจากปริมาณสุราที่ชำระภาษีต่ำกว่าที่ประมาณการไว้
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 48,352 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,548 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.8) เนื่องจากได้รับผลกระทบของการปรับโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมูลค่าการนำเข้าที่ยังคงหดตัว โดยมูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ และเงินบาทในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 หดตัวร้อยละ 12.6 และร้อยละ 3.9 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 43,276 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,244 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 27.7) ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ กองทุนรวมวายุภักษ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 131,348 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 54,201 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.3 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 66.8) เนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz (4G) การนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียน และการนำส่งเงินจากการยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินบางส่วน
สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 3,424 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 71 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 3.4) เนื่องจากการจัดเก็บรายได้เหรียญกษาปณ์ต่ำกว่าประมาณการ
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 101,363 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 12,847 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.2 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 83,805 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 15,795 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.9 และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 17,558 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,948 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.2
2.7 อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 4,135 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 285 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4
2.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 5,868 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,094 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.7
2.9 เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 6,041 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 368 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.7
2.10 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 2 งวด เป็นเงิน 17,021 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,571 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.2
ข่าวเด่น