กระทรวงเกษตรฯ ขานรับนโยบายรัฐบาล จัด "ตลาดจตุจักรสะพานปลา" ระหว่าง 31 มี.ค. – 2 เม.ย. นี้ เป็นศูนย์กลางตลาดจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปของเกษตรกรประมง ที่ถูกกฎหมายกว่า 50 ร้านค้า พร้อมส่งเสริมความรู้การทำประมงถูกกฎหมายและคัดค้านการค้ามนุษย์
นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยองค์การสะพานปลา ได้จัดทำโครงการ “ตลาดจตุจักรสะพานปลา” ขึ้น ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน 2559 ณ สะพานปลากรุงเทพฯ ซอยเจริญกรุง 58 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นศูนย์กลางตลาดซื้อขายสินค้าสัตว์น้ำสด ผลิตภัณฑ์แปรรูปของกลุ่มเกษตรกรประมง และผู้ผลิตที่ทำประมงถูกกฎหมายและยั่งยืน
โดยให้ประชาชนได้เข้าถึงสินค้าดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัยในราคายุติธรรม รวมทั้งเป็นการส่งเสริม อุดหนุน อาชีพของชาวประมง ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กลุ่มเกษตรกร ชุมนุมสหกรณ์เกษตรแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบกิจการแพปลา กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการประมง สินค้าเกษตร ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (SMEs) รวมทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลด้านการเกษตรยั่งยืน และการให้ความรู้ในการทำประมงถูกกฎหมายและคัดค้านการค้ามนุษย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้กับชาวประมง และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า สินค้าที่นำมาจำหน่ายใน “ตลาดจตุจักรสะพานปลา” เป็นสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์แปรรูป ตลอดจนสินค้าเกษตรที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน โดยมีร้านค้าและนิทรรศการรวมกันกว่า 50 ร้านค้า ประกอบด้วยสินค้าที่มีชื่อเสียงจากจังหวัดต่างๆ สินค้า OTOP สินค้าจากสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงต่างๆ ขององค์การสะพานปลา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์และสินค้าสัตว์น้ำแปรรูปจากการทำประมงและแรงงานที่ถูกกฎหมาย สามารถตรวจสอบย้อนกลับที่มาของสินค้าสัตว์น้ำดังกล่าวได้ รวมถึงมีการจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการทำประมงถูกกฎหมาย หลักเกณฑ์การเข้าถึงการขอความช่วยเหลือ การขอเงินอุดหนุน การให้ทุนการศึกษา เวทีแสดงการสาธิต อาทิ วิธีแร่ปลาทูน่าทำซูชิ น้ำพริกกุ้งเสียบ การตรวจสอบสารฟอร์มาลีน บูธให้คำปรึกษาการขอสินเชื่อการเจรจาทางธุรกิจ SMEs เทคนิคการส่งเสริมการขาย เช่น การลด แลก แจก แถม และจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำในราคาพิเศษ เป็นต้น
“โครงการตลาดจตุจักรสะพานปลา จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าสัตว์น้ำและสินค้าเกษตรให้มีการพัฒนาเป็นสินค้าในภาคอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตภัณฑ์ประมง ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานที่จะสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ขณะเดียวกันก็จะส่งผลสะท้อนกลับไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดการค้า และการลงทุนธุรกิจสัตว์น้ำต่อเนื่องแบบยั่งยืนต่อไป” นายศักดิ์ชัย กล่าว
.jpg)
ข่าวเด่น