ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 



กลยุทธ์วันนี้  Selective Buy

ตลาดหุ้นวานนี้: 
 
 
          ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งแคบระหว่าง 1,410 จุด +/- กลุ่มพลังงาน / ธนาคาร ปรับตัวลง แต่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มขนส่งกลับฟื้นตัวได้เด่น จากปัจจัยภายในประเทศ ส่งผลให้ SET INDEX ปิดลดลง 6.75 จุด มาอยู่ที่ 1,405.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50,122 ล้านบาท
          ด้านเงินทุนต่างชาติยังคงเบาบาง ซื้อสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 3 อีก 573 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 3,438 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 5,564 ล้านบาท
 
 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนก.พ.ของไทยวันนี้ Bloomberg consensus คาด –8.7% yoy
          - วันนี้ตลาดหุ้น / ตลาดตราสารหนี้ / ตลาดล่วงหน้า สหรัฐฯ ปิดทำการ
 
 

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
          - รายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ.ของไทย วันที่ 31 มี.ค.
          - การประชุมครม. คาดว่าจะมีการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายเหลือง – ชมพู
          - การทำ Window Dressing คาดว่าจะเป็นไปอย่างจำกัด
          - ติดตามการแถลงของประธานเฟด Janet Yellen คืนวันที่ 29 มี.ค.
          - ติดตามภาวะการจ้างงานของสหรัฐฯ 
 
 

มุมมองต่อตลาด
          เราคงมุมมองต่อการลงทุน “บวก” วันที่ 11 แม้ว่าจะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ อีกทั้งเม็ดเงินทุนต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่องก็ตาม แต่ด้วยสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินทั่วโลก ทำให้แรงขายจากต่างชาติจำกัด และน่าจะเป็นเหตุให้พอร์ตโบรกเกอร์ที่ YTD ซื้อสุทธิมากถึง 17,492 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน ประวิงเวลาในการขายทำกำไร อาจเป็นเพียงการขายทำกำไรบางส่วนเท่านั้น ส่งผลให้ Downside risk ของ SET INDEX จำกัดในช่วงสั้นนี้ 
         
เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,400-1,415 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นระดับ 5.0-5.5 หมื่นล้านบาทต่อเนื่อง โดยหุ้นหลัก กลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี / ICT จะยังพักฐานต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นขนาดกลางจะมีความโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะอังคารที่ 29 เม.ย.นี้ ครม.จะมีการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้สายสีชมพู – เหลือง รวมถึงท่าทีของโครงการรถไฟไทย – จีน 
         
ทั้งนี้จับตาตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ของไทย Bloomberg consensus คาด –8.7% yoy ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่รมว.คลัง ออกมาส่งสัญญาณส่งออกฟื้นตัวในเดือนก.พ. จากการส่งออกทองคำ หากออกมาสวนทางกับที่ตลาดคาดอย่างที่ รมว.คลัง ให้ความเห็นแล้ว ย่อมเป็นบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าทดสอบด่าน 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน 
 
          เราแนะนำให้ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นหลักในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และ/หรือ วัสดุก่อสร้าง ต่อเนื่อง”

          Accumulative Buy: BBL

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “สะสม” ได้แก่ 
          1.   BBL  : ราคาปิด 178.50 บาท ราคาเหมาะสม 196.00 บาท
          a)   MBKET ประเมินว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวก หากยอดส่งออกไทยเดือน ก.พ.ที่จะรายงานวันนี้ออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ -8.7% yoy 
          b)   BBL จะได้ประโยชน์โดยตรงหากความต้องการใช้เงินทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัวตามความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากมีสัดส่วนลูกค้าที่เป็น Corporate Loan สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร
          c)   จุดเด่นของ BBL อยู่ที่คุณภาพของสินทรัพย์ เนื่องจากมี Coverage Ratio สูงถึง 185% จึงเชื่อว่ามี Downside Risk ของประมาณการกำไรปี 2559 ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่จะต้องตั้งสำรองพิเศษเพิ่มเติมในปี 2559 เพื่อเพิ่ม Coverage Ratio 
          d)   คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +15.1% yoy เป็น 3.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่คาดว่ากำไรจะเติบโต +9.4% yoy 
          a)   Valuation ถูก ซื้อขายระดับ PER2559 ที่ 8.6 เท่า และ PBV2559 ที่ 0.88 เท่า เทียบกับกลุ่มธนาคารที่ซื้อขาย PBV2559 ที่ 1.14 เท่า
 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 21 อีก US$128 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทิ US$136 ล้าน 
 
 

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางต่อเนื่องเป็นวันที่ 4
         
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 573 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 1,561 ล้านบาท ทำให้ยอด YTD ซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 9,348 ล้านบาท
         
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 แต่ชะลอตัวลงเหลือ 3,438 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 13,492 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 19,102 สัญญา เชื่อว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง ส่งผลให้ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 8.97 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 7.56 จุด กดดันให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิต่ำกว่า 140,000 สัญญา เป็น 130,309 สัญญา  
          และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 5,564 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 8,833 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 33,941 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมากถึง 3.36bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นอีก 1.35bps ปิดที่ 1.818%

 
Short-Selling วานนี้ 
ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 851 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,124 ล้านบาท 

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 18 กลับมาเน้นกลุ่มพลังงาน / ICT ขณะที่กลุ่มธนาคารกลับไม่โดดเด่น
       
  การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,756 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 728 ล้านบาท รวม 18 วันทำการ ซื้อสุทธิ 45,583 ล้านบาท โดยกลับมาเน้นกลุ่มพลังงาน / ICT ขณะที่กลุ่มธนาคารลดความโดดเด่นลงอย่างเห็นได้ชัด สรุปภาพรวมได้ดังนี้
         
1. กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 412 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 389 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 339 ล้านบาท กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 318 ล้านบาท กลุ่มโรงพยาบาลซื้อสุทธิ 285 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 151 ล้านบาท
          2. กลุ่มขนส่งถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 94 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 565 ล้านบาท 

 
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
 
          - ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
          - ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.พ. ลดลง 2.8% mom ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาด  -3.0% mom และสวนทางกับที่เดือนก่อนหน้า +4.2% mom ทั้งนี้ยอดการขนส่งหดตัวลงแรง 0.9% mom สะท้อนความต้องการที่ชะลอตัวลงมาก
          - ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.65 แสนตำแหน่ง ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาด 2.68 แสนตำแหน่ง แต่สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.59 แสนตำแหน่ง
          - ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น เดือนมี.ค. เท่ากับ 51.0 จุด ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 49.8 จุด แต่แนวโน้มยังคงเป็นการอ่อนแอจากคำสั่งซื้อใหม่

ยุโรป
          - ไม่มี

จีน          
          - เศรษฐกิจจีนอยู่ในระดับเสถียรภาพ: ผู้นำจีน Li Keqiang ยืนยันเศรษฐกิจจีนอยู่ในระดับเสถียรภาพ ภายใต้การปรับโครงสร้าง ซึ่งไม่ง่ายในระยะสั้น แต่จีนมีความเชื่อมั่นและสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกันจีนเองก็มีเครื่องมือที่หลากหลายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

เอเชียแปซิฟิก
         
- สิงคโปร์วางแผนเศรษฐกิจเติบโตต่ำสุดในรอบ 6 ปี: เป้าหมายเติบโต 1.0-3.0% ด้วยการใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันด้วยการลดหย่อนภาษี และให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำมากกว่า 2.0 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ พร้อมเลื่อนการขึ้นค่าธรรมเนียมคนงานต่างชาติในอุตฯ เดินเรือ ขณะที่ทางการจะติดตามตลาดบ้านอย่างใกล้ชิด
       
  - ธนาคารกลางไต้หวันลดอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 13bps เป็น 1.5% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาดการณ์ พร้อมผ่อนคลายหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
         
- เศรษฐกิจเกาหลีใต้เติบโตชะลอตัว: 4Q59 เติบโต 0.7% qoq ชะลอตัวจาก 3Q59 ที่เติบโต 1.2% qoq ส่งผลให้เศรษฐกิจปี 2558 เติบโต 2.6% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 ทั้งนี้ภาคการก่อสร้างลดลง 2.4% qoq ใน 4Q58 ขณะที่การบริโภคภายในประเทศ เติบโต 1.4% qoq และการใช้จ่ายภาครัฐ เติบโต 1.0% qoq 
         
- อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นทรงตัว: เพิ่มขึ้น 0.3% yoy ในเดือน ก.พ. เท่ากับที่ Bloomberg Consensus ประเมิน เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ 0.0% yoy อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อที่ไม่รวมอาหารยังทรงตัวจากปีก่อน 0.0% yoy แม้ว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบแต่แต่กลับไม่ช่วยเร่งอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นได้

ไทย
          ไม่มี

         
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 25 มี.ค. 2559


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 มี.ค. 2559 เวลา : 10:46:20

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:09 am