การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) มั่นใจสถานการณ์ภัยแล้งปี 2559 ที่จะเกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแน่นอน
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานกรรมการ กปภ. เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอีกแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งในช่วงฤดูร้อนของทุกปีจะตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรน้ำในปริมาณสูง แม้ว่าในปี ๒๕๕๙ สถานการณ์ภัยแล้งจะมีความรุนแรงกว่าทุกปี
อย่างไรก็ตาม กปภ. ขอให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่ในเขตการท่องเที่ยวจะไม่ขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน เพราะได้เตรียมการณ์ไว้พร้อมแล้ว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เกาะเสม็ด จ.ระยอง เกาะช้าง จ.ตราด เกาะลันตา จ.กระบี่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
นอกจากนี้ กปภ. ยังได้ร่วมหารือกับหลายหน่วยงานของจังหวัดระยอง ในประเด็นการพัฒนาในเขตพื้นที่ของเกาะเสม็ด โดยให้ กปภ. รับผิดชอบวางท่อขยายเขตจ่ายน้ำจากสถานีจ่ายน้ำเพ – สี่แยกมาบข่า และจากสี่แยกมาบข่า – อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า (เกาะเสม็ด) เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร รวมงบประมาณทั้งสิ้น 54,263,000 บาท ขณะนี้บรรจุอยู่ในแผนงบประมาณ ปี 2560 ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวต้องผันน้ำใช้เองโดยการขนส่งบรรทุกน้ำทางเรือและซื้อน้ำจากเอกชน จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จประชาชนในเกาะเสม็ดและนักท่องเที่ยวก็จะมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอและทั่วถึงในราคาที่สมเหตุสมผล
นายชุมพล โชคพงษ์อุดมชัย รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 4 ) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. ยินดีส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล ด้วยการสนับสนุนน้ำประปาที่มีคุณภาพ สะอาด และได้มาตรฐาน โดยประชาชนมั่นใจได้ว่าในช่วงกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 59 นี้ จะมีน้ำใช้ไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ การแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาระดับชาติ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า และหากประชาชนพบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาด หรือพบเห็นท่อประปาแตกรั่ว กรุณาแจ้ง กปภ. สาขาที่ใช้บริการ หรือ PWA Call Center โทร 1662
ข่าวเด่น