นายณรงค์ฤทธิ์ ศรีสถิตย์นรากูร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ในฐานะ ประธานศูนย์อำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์น้ำ แจ้งว่า ตามที่ได้แจ้งล่วงหน้าว่า น้ำประปาจะไหลอ่อนลง ในช่วงเวลาประมาณ 10.00-16.00 น. ของวันที่ 30 มีนาคม ถึง 1 เมษายน 2559
เนื่องจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ สำนักงานประปาสาขาสุขุมวิท พระโขนง สมุทรปราการ ทุ่งมหาเมฆ และสุขสวัสดิ์ นั้น จากการติดตามข้อมูลน้ำขึ้นน้ำลงของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ล่าสุด ประกอบกับ กรมชลประทาน ได้ดำเนินการช่วยเหลือด้วยการปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนพระรามหกและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มเติม ส่งผลให้ค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำดิบสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี มีปริมาณลดต่ำลงต่อเนื่อง จากข้อมูลระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2559 พบว่า ค่าความเค็มต่ำสุด-สูงสุด อยู่ที่ 0.15-0.46 กรัมต่อลิตร ล่าสุดต่ำกว่าจุดเฝ้าระวังแล้ว และมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง
นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กปน. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาใดที่ค่าความเค็มขึ้นสูงมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวันพระ ที่น้ำจะขึ้นสูงกว่าปกติ จะพิจารณาหยุดการสูบน้ำดิบเข้าคลองประปา ซึ่งหากมีระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง จะไม่กระทบต่อการให้บริการน้ำประปา ทั้งนี้คาดว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงรอบถัดไป จะเกิดขึ้น 15-16 เมษายน 2559 ซึ่ง กปน. จะแจ้งให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ กปน. จะสามารถผลิตน้ำประปาให้ประชาชนได้ใช้อย่างไม่ขาดแคลน แต่ขอความร่วมมือร่วมกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อสงวนต้นทุนน้ำของประเทศไว้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อความอุ่นใจแต่ละบ้านควรมีถังสำรองน้ำไว้ใช้ในยามฉุกเฉินที่เกิดน้ำเค็มขึ้นสูง และในกรณีน้ำไม่ไหลเพราะท่อแตกรั่ว ซึ่งปัจจุบันถังพลาสติกสำรองน้ำ 60-100 ลิตร มีราคาเพียงร้อยกว่าบาท และไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ แต่อุ่นใจมีน้ำใช้แน่นอน
ข่าวเด่น