วันนี้(31มี.ค.) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าประชาชนบางส่วนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยว รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน ทั้งอันตรายจากการเล่นน้ำ และอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติรับทราบแผนบูรณาการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2559 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” โดยจะเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนในช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย. โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในระดับจังหวัดจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่ในการอำนวยการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจ จุดบริการตามเส้นทางสายต่างๆ รวมถึงประสานชุมชนใช้มาตรการทางสังคมในรูปแบบการตั้งด่านชุมชน “1 ชุมชน 1 หมู่บ้าน 1 ด่านตรวจ” เพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ และบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่กระทำผิด ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยในการเล่นน้ำสงกรานต์ของประชาชน โดยจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย กวดขันการเข้าถึงการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเด็ก เยาวชน สถานที่ และช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการเร่ขายริมทาง และในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์
อย่างไรก็ตาม จะมีการรณรงค์เล่นน้ำสงกรานต์ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” โดยขอความร่วมมือประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์อย่างประหยัด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นน้ำแบบสาดใส่กัน หรือใช้สายยางฉีดน้ำใส่กันตามท้องถนนมาเป็นการประพรมน้ำใส่กัน การรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ การสรงน้ำพระพุทธรูป หรือพระสงฆ์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีตามวิถีไทยแล้ว ยังช่วยป้องกันอันตรายจากการเล่นน้ำอย่างไม่สุภาพอีกด้วย
ข่าวเด่น