บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย(28มี.ค.-1เม.ย.)ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น หลังประธานเฟดส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ อย่างระมัดระวัง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,400.72 จุด เพิ่มขึ้น 0.43% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 19.47% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 40,842.28 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 518.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.73% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงต้นสัปดาห์ โดยถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังเงินดอลลาร์ฯ ปรับแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ปรับพุ่งขึ้นในวันพุธ หลังประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กระนั้น ตลาดหุ้นไทยต้องลดช่วงบวกลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน ประกอบกับตลาดในภูมิภาคเผชิญแรงขายตามตลาดหุ้นญี่ปุ่น ภายหลังผลสำรวจทังกันและดัชนี PMI ของญี่ปุ่นสะท้อนความอ่อนแอของภาคธุรกิจ
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (4-8 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,390 และ1,371 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,410 และ 1,420 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดที่อาจให้ความเห็นเกี่ยวกับจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ดัชนี PMI ภาคบริการ และบันทึกการประชุมเฟด สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซน
ข่าวเด่น